...
ถึงผู้อ่านทุกท่าน
ขณะที่เขียนข้อความนี้ผู้เขียนเพิ่งได้ทราบข่าวที่น่าตกใจ เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นกับคนรู้จัก
สำหรับผู้ที่ติดตามงานของผู้เขียนมานานอาจสังเกตเห็นว่างานของผู้เขียนจะหยิบประเด็นที่ผู้เขียนสนใจในช่วงเวลานั้นๆ ขึ้นมานำเสนอ เช่น ซีรีส์ของกฤติยาคือการพูดถึงปัญหาสังคมโดยภาพรวมผ่านตำรวจกับคดีอาชญากรรม, Dying Symphony คือการพูดถึงความตายและความหมายของชีวิตผ่านสงครามและความขัดแย้ง
งานชิ้นล่าสุด เรื่อง Del Vento คืองานที่ผู้เขียนต้องการเขียนเพื่อ “ผู้หญิงที่อยู่ในสังคมที่เหยียดเพศหญิง” ผ่านตัวละครหญิงสถานะต่างๆ และการ “เลือก” ของพวกเธอ ผ่านเรื่องราวของ “ลอเร็ตโต้ รี้ด” หญิงสาวที่ต้องดิ้นรนอยู่ในวงการแก๊งสเตอร์โดยที่เธอไม่ใช่ทั้ง “เมีย” และ “โสเภณี”
ตอนเริ่มโพรเจกต์นี้ผู้เขียนทำใจไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าในสังคมที่เหยียดเพศหญิง งานที่มี “ผู้หญิง” เป็นศูนย์กลางและยิ่งเป็น “ผู้หญิงที่ไม่ตรงตามมาตรฐานของสังคมชายเป็นใหญ่” ยิ่งยากที่จะประสบความสำเร็จ ผู้เขียนเริ่มโพรเจกต์นี้โดยแทบไม่บอกรายละเอียดอะไรแก่นักอ่านเลยเพราะต้องการให้นักอ่านแสดงความคิดเห็นที่แท้จริงออกมาให้มากที่สุดเพื่อสะท้อนภาพสังคมที่เราอยู่ ผู้เขียนประเมินปฏิกิริยาของผู้อ่านไว้คร่าวๆ แล้วแต่ก็ยังพยายามมองโลกในแง่ดีอยู่ว่า “ยุคนี้การเหยียดเพศคงไม่รุนแรงเท่ายุคก่อนหรอก” แต่เปล่าเลย...ทุกอย่างเป็นไปตามกรณีเลวร้ายสุดที่ผู้เขียนคาดไว้
ช่วงแรกทั้งผู้เขียนและตัวละคร “ลอเร็ตโต้ รี้ด” เจอการเหยียดเพศอย่างรุนแรงมาก นักอ่านมากมายเกลียดชังงานของผู้เขียนและหลายคนพูดชัดเจนว่าอยากให้ผู้เขียนเปลี่ยนแปลงเพศ “รี้ด” ให้เป็นชายเพราะพวกเขาต้องการตัวเอกเพศชายเท่านั้น นักอ่านโดยเฉพาะนักอ่านหญิงไม่อยากอ่านเรื่องที่ผู้หญิงเป็นตัวนำเพราะพวกเขาเชื่อว่าเพศหญิงไม่มีทางเก่งหรือฉลาดพอที่จะเป็นตัวเอก (ในขณะที่นักอ่านชายหลายท่านกลับอ่านงานเรื่องนี้แล้วฟีดแบ็กแง่บวกกลับมาหาผู้เขียนโดยไม่ติดขัดว่าผู้หญิงเป็นตัวเอก) ช่วงนั้นผู้เขียนร่วมต้องรับทั้งอีเมลและข้อความด่าทอหยาบคายและรุนแรงไปถึงการ sexual harassment ด้วยการส่งรูปถ่ายอวัยวะเพศชาย (dick pic) มาเพื่อบุลลี่กดดันให้ผู้เขียนเปลี่ยนแปลงเพศตัวละครหรือเปลี่ยนเนื้อเรื่องให้เป็นอีโรติก-มาเฟียชายหญิงตามที่พวกเขาต้องการ
หากเข้าไปอ่านความคิดเห็นของผู้อ่านช่วงตอนแรกๆ ของ Del Vento ที่ comico ผู้อ่านจะพบความคิดเห็นที่เหยียดเพศเหล่านั้น แม้ความคิดเห็นที่หยาบคายบางส่วนจะโดนลบไปแล้วแต่ผู้อ่านยังสามารถเห็นเค้าความคิดเห็นเชิงเหยียดเพศของนักอ่านส่วนใหญ่ได้อยู่ นี่คือหลักฐานที่ผู้เขียนใช้งานเรื่องนี้ดึงขึ้นมาให้เห็นว่า “การเหยียดเพศในสังคมบ้านเรายังมีอยู่จริง” ขนาดแค่ในการ์ตูนที่เป็นเรื่องสมมตินักอ่านโดยเฉพาะนักอ่านหญิงจำนวนมากยังต่อต้านการที่จะตัวละครเพศหญิงจะมีบทบาทสำคัญโดยไม่อิงกับตัวละครชาย (ที่ใช้คำว่า “ต่อต้าน” เพราะหากแค่ไม่ชอบคงแค่ไม่อ่านแล้วปล่อยผ่าน คงไม่มีปฏิกิริยารุนแรงถึงขนาดต้องหาทางทำลายเช่นนี้)
*การที่ตัวละครเป็น lgbt ผู้เขียนตอบได้เลยว่าไม่ใช่ประเด็น เพราะหากตัวละครเป็นชายต่อให้เป็น lgbt ผู้อ่านก็ยอมรับได้หรือจะเป็นที่นิยมในกลุ่มนักอ่านหญิงมากขึ้นด้วยซ้ำ หรือหากจะบอกว่า “นักอ่านหญิงต้องการอ่านแต่เรื่องที่ตัวเอกมีแรงดึงดูดทางเพศกับตัวเองถึงอยากอ่านเรื่องที่ตัวเอกเป็นชาย” นั่นคงเป็นเรื่องที่น่าเศร้า เพราะแปลว่านักอ่านหญิงจำนวนมากไม่เปิดกว้างขนาดอ่านงานที่ตัวเอกไม่มีแรงดึงดูดทางเพศต่อตัวเองได้ในขณะที่นักอ่านชายสามารถอ่านเรื่องที่ตัวเอกไม่มีแรงดึงดูดทางเพศต่อตนได้ตลอด หากมีโอกาสผู้เขียนจะเขียนบทความเรื่อง lesbophobia (การเหยียดหญิงรักเพศเดียวกัน) ว่ามีรายละเอียดต่างจาก homophobia (การเหยียดคนรักเพศเดียวกัน) โดยทั่วไปอย่างไร)
ในสังคมชายเป็นใหญ่ การเขียนตัวละครชายเป็นตัวนำหรือเขียนงานที่ยกย่องเพศชายเป็นการรับประกันความสำเร็จไปแล้วกว่า 80% นี่เป็นเรื่องที่ผู้เขียนรู้ดีและผู้เขียนก็รู้ด้วยว่าจะเขียนงานอย่างไรให้ถูกใจกลุ่มผู้อ่านส่วนใหญ่ที่มีค่านิยมแบบนี้ แต่ปัจจุบันมีสื่อบันเทิงที่เหยียดเพศหญิงถูกผลิตขึ้นมาจำหน่ายให้กับผู้อ่านมากมายอยู่แล้ว ผู้เขียนคงไม่จำเป็นต้องเขียนงานแนวนั้นเข้าไปเพิ่ม
ความเป็นเพศหญิงของ “ลอเร็ตโต้ รี้ด” คือหัวใจสำคัญของเรื่อง Del Vento หากเปลี่ยนเธอให้เป็นชายเรื่องราวที่เธอพบทั้งหมดจากการที่เธอเป็นเพศหญิงก็จะไม่เกิดและเรื่องนี้จะกลายเป็นแนวโรแมนซ์มาเฟียทั่วไป ใช่...มันอาจจะทำให้งานชิ้นนี้ประสบความสำเร็จและเป็นที่นิยมมากขึ้นในกลุ่มผู้อ่านวงกว้าง แต่มันจะกลายเป็นแค่งานที่ส่งเสริมค่านิยมเหยียดเพศหญิงอีกชิ้นหนึ่ง ไม่ใช่งานที่ผู้เขียนเขียนเพื่อ “ผู้หญิง” ตามที่ตั้งโจทย์ไว้อีกแล้ว
ผู้เขียนอยากเขียน Del Vento เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้หญิง อยากให้พวกเธอรู้ว่าแม้การที่ผู้หญิงอยู่ในโลกที่เหยียดเพศหญิงมันน่ากลัวแต่ทุกคนสามารถต่อสู้ดิ้นรนเอาตัวรอดได้หากมีสติและไม่ยอมแพ้ มันคงดีกว่าการปฏิเสธไม่รับรู้โลกแบบที่มันเป็นจริงๆ มองทุกอย่างในแง่ดีเกินไปจนประมาทเปิดโอกาสให้เรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นกับชีวิต หรือวาดฝันว่าสักวันจะมีเจ้าชายมาให้พึ่งพาแล้วปล่อยเวลาให้ผ่านเลยจนลืมที่จะใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ ณ ปัจจุบัน
ผู้เขียนมีแม่, น้องสาว, หลานสาว, ญาติผู้หญิง, เพื่อนและคนรู้จักที่เป็นหญิงอีกมากมาย ผู้เขียนจึงอยากให้ผู้หญิงทั้งที่ผู้เขียนรู้จักหรือไม่รู้จักสามารถพึ่งพาตัวเองได้, รักและรู้จักคุณค่าของตัวเอง, กล้าเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง, กล้าปฏิเสธสิ่งเลวร้ายที่คนอื่นพยายามยัดเยียดให้, ไม่ยอมให้ใครมาเอาเปรียบไม่ว่าจะในเรื่องสถานะ ความสัมพันธ์ หรืออื่นๆ, กล้าให้กำลังใจและเลิกเหยียดผู้หญิงด้วยกัน ทั้งยังสามารถใช้ชีวิตอยู่ในโลกนี้ได้อย่างมีความสุขและปลอดภัย
แม้งานของผู้เขียนจะไม่มีคุณค่าในสายตานายทุนและผู้เขียนเองก็ไม่ได้มีอิสระทางการเงินขนาดจะเขียนอะไรก็ได้ตามใจชอบโดยไม่สนตลาด อาจมีสักวันที่งานต่อๆ ไปของผู้เขียนจะต้องเอาใจตลาดมากขึ้น แต่ผู้เขียนก็จะพยายามคงจุดยืนในการไม่เขียนงานที่เหยียดเพศหญิงเพื่อแลกกับความสำเร็จ เพราะการทำแบบนั้นก็เท่ากับผู้เขียนได้เปลี่ยนงานที่ตัวเองรักให้กลายเป็นงานที่ตัวเองเกลียด
ผู้เขียนเคยให้สัญญากับอาจารย์ที่เคารพว่าจะเขียนเรื่อง Del Vento นี้ให้จบฉะนั้นผู้เขียนจะพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อให้ Del Vento ได้เดินทางต่อแม้จะมีนายทุนหรือไม่ ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านสำหรับการสนับสนุนที่ผ่านมาและต่อไป
7 ตุลาคม 2565
Devilray
หมายเหตุ
นอกจาก “เรื่องไม่คาดคิด” ที่ผู้เขียนเจอล่าสุด ในช่วง 5 ปีที่เขียน Del Vento นี้มีทั้งเรื่องดีและเรื่องร้ายเกิดขึ้นรอบตัวผู้เขียน เรื่องร้ายคือสถานการณ์เลวร้ายที่สุดสำหรับผู้หญิงที่ผู้เขียนเคยใส่ไว้ใน Del Vento รวมถึงประเด็นทางสังคมที่ผู้เขียนเคยหยิบยกมาเขียนบทความได้เกิดขึ้นกับผู้อ่านบางท่านและคนที่ผู้เขียนรู้จัก ผู้เขียนคงไม่อาจเข้าใจความเจ็บปวดของพวกเธอได้ทั้งหมด ผู้เขียนได้แต่หวังว่าพวกเธอจะ “เลือก” รักตัวเองและสามารถเอาชนะสิ่งเลวร้ายเหล่านั้น
ส่วนเรื่องดีคือผู้เขียนได้รับข้อความขอบคุณจากผู้อ่านหลายท่านว่าผลงานของผู้เขียนเป็นประโยชน์และช่วยเปิดมุมมองใหม่ๆ สำหรับผู้เขียนการที่งานของตัวเองช่วยต่อยอดความคิดให้กับผู้อ่านได้นอกเหนือจากความสนุกคือสิ่งที่ทำให้ผู้เขียนดีใจมากที่สุด คำติชมเหล่านี้ถือเป็นแรงขับดันอันสำคัญที่ทำให้ผู้เขียนและผู้เขียนร่วมยังมีไฟในการสร้างงานและเขียนบทความต่อไป ผู้เขียนจึงขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ส่งความคิดเห็นและกำลังใจให้กันตลอดมา ณ ที่นี้