วันพุธที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2562

The Naked Director


มีความสงสัยเล็กๆ ว่าทำไมไม่เป็น The Porn Director อาจจะเพราะชื่อซ้ำหรือไม่ก็คงลดระดับความแรงของชื่อ


เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่อยากเขียน แต่ดันมีรีวิวว่าดีแสนดีเยอะเลยต้องออกมาเขียน อันดับแรก นี่เป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนจากความรู้สึกและความรู้ในเวลาที่เขียนนี้ โปรดไตร่ตรองและวิเคราะห์ว่าโดยทั้งหมดผู้เขียนไม่สนับสนุนวงการหนังโป๊เลย


The Naked Director เป็นพล็อตอุดมคติในฝันของหนุ่มที่สามารถยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงสวยได้มากมายและฟุ้งเฟ้อใช้จ่ายได้ไม่อั้นสร้างจากเรื่องจริงของบุคคลจริง ซีรีส์นี้ดีในแง่การเล่าเรื่อง บทเรื่อง ภาพ เพลงประกอบ คนแสดง ดี "สำหรับผู้ชาย" เนื้อเรื่องเล่าเซลล์แมนตกงานผันตัวเองมาขายเทปเสียงคนร่วมรักกัน แล้วขยายกรอบอาชีพมาเป็นขายหนังสือโป๊ จนมาสร้างหนังโป๊เอง แสดงเองและขายเอง จนประสบความสำเร็จร่ำรวยมีชื่อเสียงตอนจบ (ได้ข่าวว่าจะมีซีซั่น 2 หวังว่าจะเอาเนื้อหาหลังจากนี้มานำเสนอให้ผู้ชมรับรู้ว่าจริงด้วย ชีวิตจริงไม่หวือหวาแบบในซีรีส์และไม่รุ่งโรจน์แบบในซีรีส์ ปัจจุบันเป็นบุคคลล้มละลายมีหนี้สิน)

แต่เรื่องนี้ "ระยำสำหรับผู้หญิง"

เพราะหนังไม่สะท้อนความจริงของวงการหนังโป๊ในแง่มุมของผู้หญิงมากพอจะให้ผู้ชมรู้สึกว่าเป็นเรื่องสำคัญเลย ในวงการหนังโป๊และธุรกิจค้ากาม "ผู้หญิงคือสินค้า" ไม่มีพื้นที่หรือที่ยืนให้กับผู้หญิง


ผู้หญิงที่เคยเข้ามาแสดงหนังโป๊นับคนได้ที่จะสามารถออกไปยืนต่อสังคมได้อย่างปกติในระยะยาว (ในระยะสั้นๆ จะเป็นกระแสมีรับงานโชว์ตัว คนสนใจห้อมล้อม แต่ในระยะยาวเมื่อกลับมาใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาทั่วไปเมื่อไร หากคนที่อยู่ใกล้จำได้ว่าเคยเล่นหนังโป๊นักแสดงก็จะโดนตีตราว่า "ขายตัว" "ลามก" "สกปรก" และกีดกันออกจากสังคมทันที) อย่างตัวละครนี้ที่เข้ามาเล่นหนังโป๊แบบปิดเทปคือไม่มีการสอดใส่จริงเพื่อหาเงินในช่วงวัยรุ่น เมื่อเวลาผ่านไปได้ไปเธอโตขึ้นและได้สมัครงานกลายเป็นสาวออฟฟิศปกติแต่ชีวิตก็พังต้องตกงานเพราะสังคมและบริษัทรู้ว่าเธอเคยเล่นหนังโป๊แบบไม่มีการสอดใส่จริง พระเอกที่ประกาศกร้าวจะรับผิดชอบเองตอนถ่ายทำ "ไม่ทำอะไรเลย"


ตัวละครตัวนี้เข้ามาเล่นหนังให้พระเอกแบบไม่มีการสอดใส่จริง แต่กลับถูกคุกคาม กดดัน ย้ำว่าเป็นการคุกคาม กดดัน จากพระเอกให้ยอมโดนเสียบจริง ลองคิดดูว่าผู้หญิงในกองถ่ายที่มีแต่ผู้ชายทั้งกอง มีทีมงานที่เป็นผู้หญิงอย่างมากก็มีช่างแต่งหน้า, ทำผม, ฝ่ายเสื้อผ้าที่จะเป็นผู้หญิงอีกแค่คนสองคน มีความเป็นไปได้แค่ไหนที่จะสามารถเอาชนะแรงกดดันตรงหน้าได้ คำตอบคือ  ไม่มี... ดาราผู้หญิงต้องจำใจแสดงแบบสอดใส่ทั้งที่ผิดกฎหมายตอนนั้นด้วย พอถูกสังคมตีแผ่ประจาน ถูกจับ ถูกไล่ออกจากงาน ชีวิตปัจจุบันที่กำลังมีชื่อเสียงก็ดับวูบ พระเอกที่ประกาศกร้าวจะรับผิดชอบทุกอย่างเองตอนถ่ายทำ "ก็ไม่ทำอะไรเลย"


ตัวละครตัวนี้นางเอกของเรื่องที่มาทำให้เรื่องนี้โรแมนติก (แต่นางเอกในชีวิตจริงไม่ได้อยู่กับผู้กำกับตัวจริง หลังแยกตัวผู้กำกับตัวจริงก็ล้มละลาย) ในซีรีส์นำเสนอความเป็น Liberal ของเธอ ต้องการเสรีภาพ อิสระ ความเท่าเทียม ซึ่งมันก็ปลดแอกความคิดที่ถูกตีกรอบของผู้หญิงได้แต่ไม่ใช่กับเรื่อง Sex เพราะความเป็นจริงผู้หญิงที่ฟรีเซ็กซ์ไม่ได้ถูกยกย่องในระยะยาว พวกเธอจะถูกชื่นชมตอนที่เธอสาวและสวย เมื่อแก่ตัวลงสิ่งที่เธอจะได้รับคือ "กะหรี่" "นังร่าน" "นังมั่ว" "เหี่ยวแล้วมาโชว์อะไร" "น่าเกลียดเสียสายตา" เหล่านี้คือคำพูดดูถูกจากผู้ชายทั้งหลายที่ยกย่องผู้หญิงสาวๆ สวยๆ ที่ให้เอาฟรีๆ โดยอ้างเสรีภาพ

สิ่งเดียวในตัวละครนี้ที่เห็นความดีก็คือ "ความภูมิใจในตัวตนของตนเอง" เธอไม่จำเป็นต้อง "สวย" แบบที่สังคมตีกรอบ เธออยากไว้ขนรักแร้เธอก็จะไว้เพราะมันเป็นธรรมชาติของเธอ เป็นตัวเธอ (แต่สำหรับผู้เขียน ไม่ว่าผู้หญิงผู้ชาย ถอนโกนแว้กซ์ขนรักแร้ได้ทำเถอะ ไม่เกี่ยวกับความสวยงามแต่เป็นความเหม็นและกลิ่นตัวล้วนๆ ที่ทำร้ายคนที่อยู่ใกล้เคียง กลิ่นตัวของบางคนรุนแรงขนาดที่ฉีดน้ำหอมแล้วก็ยังเหม็น)


ซีรีส์นี้ยังพยายามเสนอภาพสีดำของวงการด้วย คือ เบื้องหลังของธุรกิจพวกนี้มักจะมีบุคคลสีดำและเทาอยู่เสมอ มีนักแสดงผู้หญิงจำนวนมากที่ถูกนำเข้ามาจากการล่อลวง ข่มขู่ การใช้ยาเสพติดบังคับขืนใจให้แสดงหนังและขายตัว แต่ซีรีส์ไม่เน้นเลยหัวข้อนี้เลยเป็นเพียงไม้ประดับให้ผ่านตาแค่นั้น ผู้ชมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้หญิงในฉากเหล่านี้คือใคร


ดูซีรีส์ The Naked Director จบแล้ว ผู้เขียนอยากให้ดู After Porn Ends กับ Hot Girls Wanted ซึ่งจะเล่าถึงมุมนักแสดงผู้หญิงว่าต้องเจออะไรบาง ทั้งการดูถูก การใช้ความรุนแรง ล่วงละเมิด โกงค่าแสดง ไม่รับผิดชอบหากบาดเจ็บในระหว่างการแสดง ไม่รับผิดชอบหากติดโรคจากการแสดง ฯลฯ

ความอยากจะเป็นดาราหนังโป๊ของเด็กสาวรุ่นใหม่อายุๆ น้อยไม่ว่าจะเตือนอย่างไร พวกเธอก็ยืนยันว่าพร้อมเป็นแมลงเม่าบินหากองไฟเสมอ เด็กสาวปรารถนาจะเป็น Porn Star ต้องการชื่อเสียง การยอมรับ เงินทอง และคาดหวังจะเจอความรักจากวงการที่ไม่เคยเห็นผู้หญิงเป็นมนุษย์ โดยคิดว่าตัวเองจะโชคดีได้เป็นยอดภูเขาน้ำแข็ง


ถ้าถามว่า Porn Star มีมั้ย? ผู้เขียนตอบได้มีและดังด้วยอย่าง เจนน่า เจมสัน ที่ได้ทั้งชื่อเสียงเงินทองเป็นกอบเป็นกำตั้งบริษัทมีสินค้าลิขสิทธิ์ของตัวเอง บางคนโชคดีได้เจอความรักที่ตัวเองอยากได้ด้วย แต่อย่างที่กล่าวไป นั่นคือยิ่งกว่ายอดภูเขาน้ำแข็ง 1 ในหมื่นหรือ 1 ในแสนเท่านั้นที่นักแสดงหนังโป๊จะออกจากวงการหนังโป๊อย่างมีความสุข


แต่ละคนล้วนแต่เจอบาดแผลไม่มากก็น้อยขึ้นอยู่จะจำหรือไม่จำ บางคนเลี่ยงที่จะไม่พูดถึงสิ่งที่ตัวเองพลาดไปด้วยเหตุผลต่างๆ นานา


ยุคสมัยนี้เป็นยุคที่ใครจะขายตัว โชว์โป๊ในอินเทอร์เน็ตก็ได้ ผู้ชมไม่ต้องรอผู้ผลิตสื่อ ไม่จำเป็นต้องมีการคัดเลือกนักแสดงจากผู้ผลิต ผู้ชมอยากจะดูก็แค่เปิดเน็ตรู้จักเว็บหรือแอพก็สามารถมีสื่อลามกเสพได้ตลอดเวลา เพราะมันมีเยอะและหาง่าย ผู้ชมปัจจุบันจึงไม่ยกย่องให้เกียรตินักแสดงหนังโป๊เป็นดาราหรือเห็นสิ่งเหล่านั้นเป็นการแสดงอีกต่อไปแต่ผู้ชมมองนักแสดงเป็นแค่วัตถุทางเพศโดยเฉพาะผู้หญิง

ผู้หญิงที่อยู่ในสื่อลามกถูกมองว่าเป็น "สิ่งของ" ที่ไม่ต้องตระหนักถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ผู้ชมมีแต่จะเรียกร้องให้นักแสดงชายกระทำความหยาบช้าเอาแต่สะใจ กระทำให้รุนแรงมากขึ้น กระทำอย่างป่าเถื่อนมากขึ้น กระทำอย่างวิตถารและบัดซับมากขึ้น เพื่อให้ถูกใจผู้ชม เพื่อให้คนเข้าดูมากๆ จะได้ค่าโฆษณา หรือเพื่อให้มีคนซื้อคลิปดูมากๆ หรือไปถึงเพื่อต่อยอดขายตัวนักแสดงหญิงต่อ

และเมื่อหนังโป๊ถูกนำเสนอให้เป็นเรื่องชาชิน ผู้ชมมากมายคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในหนังโป๊เป็นเรื่องที่คนอื่นๆ ก็ทำกันและนำพฤติกรรมรุนแรงเหล่านั้นมาใช้กับผู้หญิงในสังคมที่อยู่ใกล้ตัวพวกเขา

ทั้งหมดเป็น "มุมของผู้หญิง" ที่ซีรีส์ไม่ได้นำเสนอเลย


มาเพิ่มเพราะนึกได้ถึงคำโต้แย้งของบางบุคคลที่บอกว่าธุรกิจหนังโป๊ค้ากามควรให้มีอย่างถูกต้อง, เป็นสิทธิเสรีภาพของผู้ขาย, สื่อลามกไม่มีผลกับบุคคลที่เสพ, เป็นเรื่องธรรมชาติที่มนุษย์กระทำ, โสเภณีช่วยลดอาชญากรรม, ประเทศอื่นมีการค้าประเวณีอย่างถูกกฎหมาย, เป็นเรื่องธรรมดาของทุกอาชีพที่มีคนประสบความสำเร็จและมีคนที่ล้มเหลว ดาราที่แสดงหนังโป๊แล้วไม่ดังก็เป็นกลุ่มหลัง ฯลฯ

ขอพูดถึงประเด็นการค้ากามอิสระก่อน

อาจจะขัดแย้งกับความรู้และความรู้สึกของผู้อ่านหลายคน แต่ประเทศที่เปิดให้เสรีการค้ากามอย่างเยอรมนีมีการทบทวนกฎหมายการค้าประเวณีแล้วทั้งที่เปิดเสรีมายาวนาน เพราะโสเภณีถูกกฎหมายไม่ได้ลดอาชญากรรมตามที่อ้าง โสเภณีถูกกฎหมายไม่ได้ลดปัญหานอกระบบอย่างที่คิดแต่กลับเพิ่มความรุนแรงให้ผู้หญิงที่ไม่ต้องการค้ากาม ผู้ชายในประเทศที่เปิดเสรีการค้าประเวณีเหมารวมผู้หญิงที่ทำงานบริการว่าต้องขายตัวได้ง่ายๆ ทุกคน

ผู้เป็นนายจ้างจำนวนมากบีบบังคับให้ผู้หญิงที่เป็นลูกจ้างปกติต้องค้ากามด้วย ซึ่งมีกรณีจริงคือหญิงสาวคนหนึ่งต้องการเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟในร้านแต่เจ้าของร้านกลับบีบให้ขายตัวกับลูกค้าถ้าไม่ทำก็ถูกไล่ออก

การค้าประเวณีอิสระไม่ใช่การแสดงออกของเสรีภาพทางร่างกายผู้หญิง

การเหมารวมทุกคนต้องขายตัวก็เกิดขึ้นในไทยเช่นกัน หากลองเดินไปตามแหล่งท่องเที่ยวบางแห่งตอนกลางคืน ไม่ว่าคุณจะแต่งตัวดีไม่ดี อายุมากน้อย เพศอะไรก็ตาม คุณมีสิทธิ์ถูกถามว่า "เท่าไร" ได้เท่าเทียมกันทุกคน

คุณปฏิเสธไม่ได้ด้วยว่าการค้าประเวณีมักเชื่อมโยงไปถึงการค้ามนุษย์ มีเด็กจำนวนมากที่ไม่ได้เต็มใจขายตัวแต่ก็โดนบีบบังคับให้ขาย แต่บางคนก็ยังคงทำเบือนหน้าไม่ยอมรับข้อเท็จจริงนี้และยังเดินหน้าที่จะให้การค้ากามเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เป็นสิทธิเสรีภาพของตัวฉัน และใครๆ ก็ทำกันต่อไป

ด้านหนังโป๊และสื่อลามก

งานวิจัยที่ทำออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าและได้ผลเหมือนกันจนเป็นหัวข้อที่ถูกเลิกทำ คือ งานวิจัยหัวข้อ "สื่อลามกส่งผลกับผู้เสพสื่อ"

หลายคนปฏิเสธว่าก็แค่หนังโป๊ ไปโทษหนังโป๊ทำไม ไม่มีผลจริงๆ หรอก

แต่ในความเป็นจริงมีผู้หญิงจำนวนมากถูกกระทำต่ำช้า คุกคาม ล่วงละเมิด และข่มขืนจากสื่อลามกต่างๆ ผู้ชายที่เสพสื่อลามกจำนวนมากจะมีการโน้มลดการให้เกียรติผู้หญิงคนอื่นๆ ที่อยู่รอบตัวและในสังคมของเขาโดยไม่รู้ตัวและเชื่อมโยงผู้หญิงในสังคมกับสื่อลามกที่เขาเสพ

แน่นอนว่าเรื่องนี้มีผู้ชายออกมาปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่เป็นความจริง แต่เมื่อเกิดเหตุขึ้นเมื่อไรพวกเขาก็จะบอกว่าบุคคลที่กระทำเลวเพราะเป็นบุคคลนั้นเลวเอง บุคคลนั้นแยกแยะดีชั่วไม่ได้เอง โดยไม่มองว่าอะไรที่ส่งเสริมให้บุคคลนั้นเกิดทัศนคติที่บิดเบี้ยว

หากคุณได้เห็นหัวข้อหนังโป๊ปัจจุบันคุณจะพบหัวข้อที่แสดงความรุนแรงอย่างมากกับผู้หญิงจนเกินระดับที่เรียกว่า "ปกติ" และหัวข้อเหล่านั้นก็เริ่มเป็นกระแสหลักได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสิ่งที่เกิดกับผู้หญิงเหล่านั้นคุณคงไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตัวคุณ ญาติของคุณหรือคนที่คุณรู้จัก

พวกนี้เหมือนน้ำซึมบ่อทราย มันค่อยๆ แทรกลงไปในจิตใจ ในพฤติกรรม และต้องรอระยะเวลาหนึ่งถึงจะเห็นผลของมัน

หวังว่าผลของสิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นในช่วงชีวิตของผู้เขียนและอย่าเกิดขึ้นกับใครก็ตามผู้เขียนรู้จักอีกเลย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น