วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

นิทานเรื่อง "หมาป่า 2 ตัว"


ภาพโดย Yuri_B

https://pixabay.com/images/id-2227541/


นิทานเรื่อง "หมาป่า 2 ตัว"


อินเดียนแดงเผ่าเชอโรคีเฒ่าคนหนึ่งสอนบทเรียนชีวิตแก่หลานชาย 


เขาเล่าให้หลานชายฟังว่า "ภายในตัวปู่มีหมาป่า 2 ตัวสู้กันอยู่ หมาป่าตัวหนึ่งเป็นหมาป่าชั่วร้าย มันคือความโกรธเกลียด อิจฉาริษยา เศร้าโศก เสียใจ ละโมบ ก้าวร้าว น่าสมเพช น่าละอาย ไม่พอใจ ต่ำต้อย หลอกลวง หยิ่งในศักดิ์ศรีจอมปลอม หลงว่าตัวเองสูงส่งกว่าคนอื่น และจองหอง"


เขาเล่าต่อ "ส่วนอีกตัวเป็นหมาป่าดี มันคือความสุข สันติ ความรัก ความหวัง ความสงบ ถ่อมตน เมตตา หวังดี เห็นใจ เอื้อเฟื้อ ความสัตย์จริง มีน้ำใจ และความศรัทธา ในตัวของหลานก็มีหมาป่า 2 ตัวนี้สู้กันอยู่และในตัวของทุกๆ คนก็ด้วย"


หลานคิดอยู่ชั่วครู่แล้วถามปู่ว่า "แล้วหมาป่าตัวไหนชนะครับ"


เชอโรคีเฒ่าคนนั้นตอบว่า "ตัวที่หลานให้อาหารมัน"


*****************************


ทุกวันนี้คนมากมายพยายามทำให้ตัวเองโด่งดังด้วยการจงใจสร้างเรื่องแย่ๆ เรียกร้องความสนใจให้คนเข้ามารุมด่า รุมแชร์ให้เพื่อนเข้ามาด่า รุมแชร์ให้คนวงกว้างเข้ามาด่าจนกลายเป็น "ยิ่งด่ายิ่งดัง" หรือ "ยิ่งฉาวยิ่งดัง"


ช่วงนี้มีหลายคนพยายามดังด้วยการสร้างสื่อที่มีเนื้อหาส่อเสียด หยาบโลน หรือเหยียดผู้หญิง ล่อให้คนที่ไม่ชอบเข้ามาด่า กลายเป็นยิ่งมีคนที่ไม่ชอบมาแชร์มารุมด่ามากเท่าไรก็ยิ่งช่วยโฆษณาให้คนพวกนี้ยิ่งดังมากขึ้นเท่านั้น


เคยมีคนส่งข้อความมาถามผู้เขียนร่วมว่า "คิดอย่างไร" ผู้เขียนร่วมก็คงตอบแบบเชอโรคีเฒ่าคนนั้นว่า "อย่าให้อาหารมัน"


เมื่อเจอ "หมาป่าชั่ว" ก็อย่าไปเลี้ยงเมื่อไม่มีคนเลี้ยงมันก็จะหิวตายไปเอง เลี้ยงแต่ "หมาป่าดี" ให้มันแข็งแรงอยู่รอด


เมื่อเจอคนคิดแย่ๆ โพสต์เรื่องแย่ๆ ไม่ว่าเรื่องอะไรอย่าไปช่วยเขากระจายความคิดแย่ๆ เอาเวลาที่เท่ากันนี้ไปสนับสนุนคนที่คิดดี ทำดี โพสต์เรื่องดีๆ และส่งเสริมคนดีๆ ให้มีชื่อเสียงดีกว่า เพื่อให้คนดีๆ มีกำลังใจและกล้าที่จะทำความดีกันเพิ่มขึ้น นั่นเป็นวิธีการตอบโต้คนที่คิดแย่ๆ ได้อย่างถูกจุดที่สุด


ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วว่า "อยากเลี้ยงหมาป่าตัวไหน"

วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ปกตอน 190

 


#delvento : http://www.comico.in.th/titles/130

ตอน 190 : http://www.comico.in.th/titles/130/chapters/198

ตอน 180 : ใช้ RC อ่านได้ : http://www.comico.in.th/titles/130/chapters/188

...

ช่วงนี้ทยอยลงบทความใน readawrite เกี่ยวกับประเด็น "ทำไมถึงต่อต้านโสเภณีถูกกฎหมาย" ตอนที่ 3 จะอธิบายเยอรมันโมเดล และตอนต่อๆ ไปจะเป็นข้อโต้แย้งความคิดเห็นต่างๆ 

วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

โสเภณีถูกกฎหมาย (3) Germany model

ขายตัวถูกกฎหมายใครๆ ก็เป็นโสเภณีได้ง่ายจัง (3)


Germany model - กรณีศึกษาจากเยอรมนีหนึ่งในประเทศที่โสเภณีถูกกฎหมาย แนวคิดแบบที่ผู้สนับสนุนในไทยต้องการ


ผู้สนับสนุนโสเภณีถูกกฎหมายในไทยหลายส่วนมีแนวคิดคล้ายกับเยอรมนี การอ่านกรณีศึกษาจากเยอรมนีจึงน่าจะช่วยให้ทำนายได้คร่าวๆ ว่าหากไทยเราผ่านกฎหมายจะเกิดอะไรขึ้น



บทความสรุปการบรรยาย

https://www.trauma-and-prostitution.eu/en/2016/11/02/the-german-model-is-producing-hell-on-earth/


การบรรยายหนึ่งในปี 2016 ที่แวนคูเวอร์ แคนาดาหัวข้อ "International Approaches to Prostitution: Sweden, Germany, Canada"  (การจัดการการค้าบริการทางเพศนานาชาติ : สวีเดน เยอรมนี แคนาดา)


ได้บรรยายถึงสภาพสังคมโดยรวมในเยอรมนีหลังการออกกฎหมายในช่วงปี 2002 ให้การค้าบริการทางเพศไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมายอีกต่อไป 


นักการเมืองเยอรมันช่วงนั้นมองว่า การค้าประเวณีเป็นอาชีพสุจริตที่ไม่ได้ผิดศีลธรรมและไม่ใช่ปัญหาแต่การเหยียดการค้าประเวณีและโสเภณีต่างหากที่ทำให้โสเภณีไม่ได้รับสิทธิ์ที่ควรได้ จึงเสนอให้เปลี่ยนคำเรียกโสเภณีเป็น "sex worker" (ผู้ประกอบอาชีพทางเพศ) และพยายามยกระดับให้โสเภณีมีภาพลักษณ์ที่ดีและเข้าถึงสวัสดิการรัฐได้เหมือนผู้ประกอบการหรือลูกจ้างอาชีพอื่นๆ แนวคิดและวิธีปฏิบัติเช่นนี้ เรียกว่า “German model”


เงื่อนไขของโสเภณีถูกกฎหมายในเยอรมัน เบื้องต้นมีดังนี้

- ผู้จะเป็นโสเภณีต้องอายุเกิน 18 ปี

- ต้องมีใบอนุญาต

- ต้องมีใบตรวจโรค (อายุ 18-21 ปี ต่อใบตรวจโรคทุก 6 เดือน, อายุมากกว่า 21 ปี ต่อใบตรวจโรคทุก 1 ปี)

- ต้องสวมอุปกรณ์ป้องกันโรค

- ต้องเสียภาษี

- ต้องทำประกันสุขภาพ

- หากขึ้นกับสถานประกอบการณ์ สถานประกอบการณ์ต้องจัดหาอุปกรณ์ให้ผู้ซื้อบริการ



ย่านโคมแดงในแฟรงค์เฟิร์ต

https://www.trauma-and-prostitution.eu/en/wp-content/uploads/sites/3/2016/11/Folie10-624x468.jpg


15 ปีหลังจากผ่านกฎหมายในเยอรมนี จำนวนเม็ดเงิน ซ่อง ผู้ค้า ผู้ซื้อ และความต้องการ (demand) ในธุรกิจนี้เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 30% การค้ากามคือธุรกิจที่ทำเงินมหาศาล ในเมื่อมันถูกกฎหมายไม่แปลกที่แม้แต่คนที่ไม่เคยจับธุรกิจนี้ก็อยากโดดเข้ามาขอแบ่งชิ้นเค้ก 


ในเยอรมนีมีห้างร้านจำนวนไม่น้อยผันตัวเองจากธุรกิจทั่วไปเปลี่ยนเป็นซ่อง เช่น ห้องเสื้อ อู่ซ่อมรถ มีการโฆษณาซ่อง จัดเซ็กซ์ทัวร์ มีแมวมองจากซ่องออกเดินทาบทามผู้หญิงตามท้องถนนให้เข้ามาขายตัวในซ่องราวกับเชื้อชวนเพื่อซื้อขายสินค้าทั่วไป นักเรียนนักศึกษานัดกันมาเที่ยวซ่องฉลองจบการศึกษาหรือมีจัดไกด์นำทัวร์ซ่องสำหรับนักศึกษาใหม่กันเป็นเรื่องปกติ 



อู่ซ่อมรถที่ผันตัวเป็นซ่อง

https://www.trauma-and-prostitution.eu/en/wp-content/uploads/sites/3/2016/11/Folie08.jpg


ความที่โสเภณีมีเยอะ หาง่าย สะดวก เร็ว แมงดาและซ่องก็ต้องหาวิธีต่างๆ ในการดึงดูดลูกค้าด้วยการจัดโปรโมชั่นต่างๆ เช่น บุฟเฟ่ต์จ่ายครั้งเดียวดื่มเบียร์กินไส้กรอกและจะใช้ผู้หญิงกี่ครั้งก็ได้, จ่ายเหมาแล้วยกเอาผู้ชายกี่คนมารุมโสเภณีคนเดียวกันก็ได้ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ล้วนล้ำเส้นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของโสเภณีให้ถูกกระทำเหมือนวัตถุ ผู้ซื้อบริการเริ่มมีพฤติกรรมรุนแรงต่อโสเภณีมากขึ้น ทั้งยังหยาบคายขึ้น วิตถารขึ้นเพราะพวกเขาจะคิดแค่ว่า "จ่ายเงินแล้วต้องใช้งานให้คุ้ม" หรือ "มันเป็นหน้าที่ของโสเภณีอยู่แล้ว" และเลิกคำนึงถึงความรู้สึกของโสเภณีหรือมองว่าโสเภณีเป็นมนุษย์ที่มีจิตใจ


งานโสเภณีจึงถูกจัดอยู่ในงานอันตรายเพราะต้องทำงานอยู่ในห้อง 2 ต่อ 2 กับชายที่มองเห็นโสเภณีเป็นแค่เครื่องระบายทางเพศ, ไม่ให้เกียรติ, พร้อมใช้กำลังเมื่อถูกขัดใจ และเสี่ยงที่จะต้องสัมผัสสารคัดหลั่งต่างๆ ซึ่งอาจทำให้ติดโรคหรือตั้งครรภ์



ภาพโดย SasinTipchai

https://pixabay.com/images/id-1822413/


เรื่องการถูกลูกค้าบังคับให้ร่วมเพศทั้งที่ไม่ใส่ถุงยาง, เบี้ยวไม่จ่ายค่าตัวหลังเสร็จกิจ, ละเมิดข้อปฏิบัติด้านความปลอดภัยอื่นๆ ที่ทำให้โสเภณีต้องเสี่ยงต่อการติดโรคหรือตั้งครรภ์, หรือการถูกลูกค้าบังคับให้เล่นวิตถารเกิดขึ้นจนเป็นเรื่องปกติและไม่มีอะไรเป็นหลักประกันเลยว่าถ้าโสเภณีปฏิเสธการให้บริการจะไม่ถูกลูกค้าข่มขืนทำร้ายร่างกายหรือถูกฆ่าตาย


เมื่อการร่วมเพศกับโสเภณีทุกครั้งมีแต่ขั้นตอนเดิมๆ ผู้ซื้อก็เกิดความเบื่อหน่ายจึงเริ่มมีผู้แชร์ "เมนู" ในหมู่นักเที่ยวบนอินเทอร์เน็ตเพื่อเป็นไอเดียว่าตอนซื้อโสเภณีจะเรียกบริการอะไรจากโสเภณีได้บ้าง เช่น เอาทั้งข้อมือยัดเข้าไปในอวัยวะเพศหรือทวารหนัก, ให้เลียทวารหนักผู้ซื้อ, เล่นละเลงอสุจิกับอุจจาระผู้ซื้อ, ถ่ายอุจจาระบนตัวโสเภณี



ตัวอย่างบาง "เมนู" ที่เป็นไอเดียให้ผู้ซื้อเรียกร้องบริการจากผู้ขาย


ในเมื่อความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับโสเภณีถูกมองเป็นเรื่องปกติและขนาดโสเภณีที่สังกัดซ่องมีแมงดาคุมยังถูกลูกค้าทำร้ายหรือเบี้ยวค่าตัวเป็นว่าเล่น โสเภณีที่รับงานเดี่ยวๆ ที่ไม่มีแมงดาคุมยิ่งตกเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการถูกใช้ความรุนแรงหรือถูกฆาตกรรม มีโสเภณีจำนวนน้อยมากที่กล้าแจ้งความเอาผิดผู้ที่ทำร้ายหรือข่มขืนตนเพราะถึงแจ้งความไปเจ้าหน้าที่ก็ไม่ค่อยให้ความสนใจเพราะมักมองว่า "ก็แค่ลูกค้าทะเลาะกับกะหรี่"



ตู้โชว์เสื้อที่กลายเป็นตู้โชว์ "สินค้า"

https://www.trauma-and-prostitution.eu/en/wp-content/uploads/sites/3/2016/11/Folie11-624x468.jpg



การที่การค้าประเวณีเป็นเรื่องถูกกฎหมายและโสเภณีเป็นอาชีพตามกฎหมาย แมงดาหรือเจ้าของซ่องก็จะถูกยกฐานะขึ้นมาเป็น "นายจ้าง"หรือ "เจ้าของร้าน" ตามกฎหมายเช่นกัน ทำให้สามารถบังคับใช้กฎหมายแรงงานกับโสเภณีในสังกัดได้แบบนายจ้างลูกจ้างทั่วไป 


หากมองอย่างโลกสวยก็จะคิดว่า "โสเภณีน่าจะได้รับการคุ้มครองจากกฎหมายแรงงานลดการเอาเปรียบจากนายจ้าง"


แต่ในความเป็นจริงผู้ใช้แรงงานส่วนใหญ่ก็ยังรู้กฎหมายไม่เท่านายจ้างหรือต่อให้รู้ก็ยังถูกเอาเปรียบจากช่องโหว่ทางกฎหมายแล้วนับประสาอะไรกับโสเภณีที่ส่วนใหญ่เรียนน้อยและขาดความรู้จะไปประกอบอาชีพอื่นจนต้องมาขายตัว 


หญิงเยอรมันส่วนใหญ่เมื่อเจอสภาพแบบที่เป็นอยู่ก็เริ่มไม่อยากขายตัวกันแล้ว 



โฆษณาซ่องในเบอร์ลิน

https://www.trauma-and-prostitution.eu/en/wp-content/uploads/sites/3/2016/11/Folie06-300x225.jpg



ผู้หญิงต่างด้าวที่ไหลจากทางตะวันออก เช่น โรมาเนียบุลแกเรีย จึงเข้ามาแทนที่ในตลาดค้ากามโดยมีความยากจนเป็นแรงขับดัน 


หญิงเหล่านี้อายุน้อยและพูดภาษาท้องถิ่นไม่ได้จึงถูก "นายจ้าง" ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือเอาเปรียบและส่วนใหญ่ถูกลูกค้าระบายอารมณ์วิปริตใส่ตั้งแต่ขายตัวครั้งแรกจนต้องพึ่งยาเพื่อให้ยังทนขายตัวไหว หากวันใดรับแขกไม่ได้ตามเป้าหรือลาหยุดก็จะถูกหักเงินหรือถูกลดสวัสดิการโดยอ้างกฎหมายแต่เมื่อไม่สบายหรือหยุดกลับเบิกอะไรจากนายจ้างแทบไม่ได้ หญิงเหล่านี้แทบจะไม่มีเลยที่สามารถเก็บเงินตั้งตัวแล้วออกจากวงจรค้ากาม พวกเธอจิตใจแหลกสลาย สูญเสียตัวตน มองไม่เห็นอนาคตและจะขายตัวแลกเงินส่งให้คนที่บ้านเกิดไปเรื่อยๆ จนกว่าร่างกายจะทนรับไม่ไหวในสักวัน


สุขภาวะของโสเภณีในเยอรมันโดยรวมเข้าขั้นน่าเป็นห่วงมาก 


โสเภณีส่วนใหญ่ร่างกายทรุดโทรม, แก่กว่าวัย, มีอาการเจ็บในช่องท้องเรื้อรัง, กระเพาะอักเสบ, ติดเชื้อจากความเป็นอยู่ที่ไม่ค่อยดี, เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์, เจ็บป่วยทางใจจนต้องพึ่งเหล้าและยา, มีอาการซึมเศร้าจากการขายตัว 



รูปจาก

https://nordicmodelnow.org/tag/germany/


ยิ่งปัจจุบัน (ปี 2016 ที่บรรยาย) ลูกค้านิยมใช้บริการหญิงท้องมากขึ้น (ผู้ชายบางกลุ่มมีความเชื่อว่าหญิงท้องช่องคลอดจะฟิตหรือไม่ต้องสวมถุงยางตอนร่วมเพศเพราะหลั่งในได้โดยไม่ท้องอีก –  ผู้เขียน) ทำให้หญิงท้อง 1 คนต้องรับแขกวันละ 15-40 คนจนกว่าจะคลอดและบ่อยครั้งที่จะทิ้งเด็กไว้แล้วกลับไปทำงานให้เร็วที่สุดหลังคลอด (เร็วสุด 3 วันหลังคลอด) ซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพทั้งแม่และเด็ก



โฆษณาอีเวนท์ปาร์ตี้เซ็กซ์หมู่หญิงวัย 19 ท้อง 6 เดือน จ่ายแค่ 35 ยูโรก็เข้าร่วมได้

https://www.trauma-and-prostitution.eu/en/wp-content/uploads/sites/3/2016/11/Folie16-624x468.jpg



เมื่อการค้าประเวณีถูกกฎหมายซ่องก็จะกลายเป็นสถานประกอบการถูกกฎหมายเป็นช่องทางให้ "นายจ้าง" สามารถลักลอบนำหญิงจากประเทศยากจนเข้ามาขายได้ง่ายขึ้น 


จากเดิมเมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่าที่ใดมีการค้ามนุษย์ก็จะสามารถบุกเข้าไปทลายซ่องได้ทันที แต่ปัจจุบันแม้เจ้าหน้าที่จะได้เบาะแสว่าซ่องนั้นๆ ลักลอบเอาผู้หญิงและเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะหรือไม่ได้ขึ้นทะเบียนมาบังคับให้ขายก็ไม่สามารถทำอะไรได้ถ้าไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดหรือหมายศาลอนุญาตให้เข้าไปตรวจค้น 


จึงไม่แปลกว่าทำไมประเทศที่อนุญาตให้การค้าประเวณีถูกกฎหมายจึงมีการค้ามนุษย์แอบแฝงแพร่กระจายยิ่งกว่าเดิม 



โปรโมชั่นสาวหน้าใหม่เริ่มต้นที่ 40 ยูโร

https://www.trauma-and-prostitution.eu/en/wp-content/uploads/sites/3/2016/11/Folie15-624x468.jpg



และแม้จะมีการร่างกฎหมายเพื่อป้องกันการค้ามนุษย์ให้รัดกุมขึ้นเพียงใด"นายจ้าง"ก็จะมีวิธีง่ายๆ ในการหลบเลี่ยง เช่น ขังหญิงต่างด้าวที่ได้มาให้อยู่แต่ในห้องไม่เห็นเดือนเห็นตะวันจากนั้นก็จัดหาลูกค้ามาหลับนอนกับหญิงต่างด้าวในห้องนั้น แน่นอนว่าเมื่อเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบโสเภณีต่างด้าวเหล่านี้จะกลายสภาพเป็น "ผู้เช่าห้องพัก" ที่เอาลูกค้ามานอนที่ห้องเอง ส่วน "นายจ้าง" จะกลายเป็นแค่ "ผู้ให้เช่าห้อง" ที่ไม่มีส่วนรู้เห็นกับการที่หญิงต่างด้าวเอาคนมานอนด้วย 


หญิงเหล่านี้มักกลัวไม่กล้าพูดความจริงเพราะถูก"นายจ้าง"ใช้ความไม่รู้เอากฎหมายข่มขู่ไว้ก่อน เช่น ถ้าโดนจับจะถูกยึดพาสปอร์ตหรือจะโดนส่งกลับประเทศทำให้เสียค่านายหน้าที่ส่งตัวข้ามประเทศไปฟรีๆ ทำให้ในที่สุดก็ไม่กล้าให้ข้อมูลที่สามารถเอาผิด "นายจ้าง"ได้



คลิปที่ออกมาอธิบายปัญหาเมื่อรัฐบาลหลายประเทศ (รวมทั้งเยอรมัน) ประกาศปิดเมืองเพื่อป้องกันการระบาดของ COVID-19 แต่โสเภณีจำนวนมากยังเข้าไม่ถึงการช่วยเหลือของรัฐ องค์กรสตรีต่างๆ จึงต้องหาทางช่วยเหลือกันเอง

https://globalnews.ca/news/6883831/sex-workers-coronavirus/


ปัจจุบัน (2020) Covid-19 ระบาดทำให้ในเดือนมีนาคมสถานบริการทางเพศในเยอรมนีถูกสั่งปิด 


โสเภณีขาดรายได้จนต้องลอบรับงานเองก่อนที่ทางการจะอนุญาตให้กลับมาเปิดอีกครั้งทั้งที่เสี่ยงต่อการติดโรคและผิดกฎหมาย (บทความนี้เขียนช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2563 หลังจากนี้ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง)


เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าแม้เยอรมนีจะเป็นประเทศที่โสเภณีถูกกฎหมายมานานแล้วแต่สวัสดิการและคุณภาพชีวิตของโสเภณีก็ไม่ได้ดีขึ้น เพราะในภาวะโรคระบาดนายจ้างหรือรัฐกลับไม่มีการจ่ายเงินชดเชยที่ไม่ได้ประกอบอาชีพและตัวโสเภณีเองก็ไม่มีเงินสำรองมากพอที่จะช่วยให้อยู่รอดโดยไม่ต้องออกไปทำงานในช่วงนั้น



https://www.dw.com/en/coronavirus-sex-workers-in-germany-get-back-to-their-jobs-after-ban-is-lifted/a-54896365


ที่อ่านผ่านตาไปคือสภาพของเยอรมนีโดยรวมหลังผ่านร่างกฎหมายให้การค้าบริการทางเพศไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมายอีกต่อไป ซึ่งหากไทยตามรอยเดียวกันสิ่งที่เกิดในไทยก็จะคล้ายกันหรืออาจรุนแรงกว่า เพราะขนาดยังไม่ถูกกฎหมายไทยเรายังได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการค้ามนุษย์ หญิงไทยส่วนใหญ่มีภาพพจน์ในสายตาชาวต่างชาติว่าเป็นโสเภณีและมีหญิงและเด็กยากจนจากประเทศเพื่อนบ้านทั้งที่เต็มใจและถูกล่อลวงหรือบังคับจากขบวนการค้ามนุษย์เข้ามาขายบริการมากมายในไทย

โสเภณีถูกกฎหมาย (2) เหตุผลฝั่งสนับสนุน

ขายตัวถูกกฎหมายใครๆ ก็เป็นโสเภณีได้ง่ายจัง (2)


เหตุผลที่คนบางส่วนสนับสนุนให้มีการค้าบริการทางเพศถูกกฎหมาย


แนวคิดเรื่อง "ทำให้การค้าบริการทางเพศเป็นเรื่องถูกกฎหมาย" เป็นเรื่องที่มีการพูดคุยกันในสังคมไทยมาระยะหนึ่งแล้วซึ่งแน่นอนว่าหัวข้อแบบนี้เป็นหัวข้อละเอียดอ่อนที่มีทั้งผู้สนับสนุนและคัดค้าน


ผู้เขียนเขียนบทความนี้ขึ้นมาเพื่อแสดงจุดยืนของผู้เขียนว่า "ไม่เห็นด้วย"


เพราะสำหรับผู้เขียนมองว่า "การทำให้การค้ากามถูกกฎหมาย = ผู้หญิงทุกคนคือโสเภณีแม้จะไม่เต็มใจก็ตาม" เพราะผลสุดท้ายผู้หญิงและเด็กที่ไม่อยากขายก็จะสุ่มเสี่ยงต่อการถูกนำมาขายหรือหาประโยชน์ทางเพศไม่ทางใดก็ทางหนึ่งอยู่ดี การทำให้ถูกกฎหมายคือการเปิดช่องให้มิจฉาชีพหรือผู้ชายที่ไม่ดีหาประโยชน์จากผู้หญิงและเด็กได้ง่ายขึ้น


หัวข้อนี้จะเป็นการสรุปความคิดเห็นของผู้คนจากที่ต่างๆ ซึ่งผู้อ่านหลายคนน่าจะเคยพบความคิดเห็นที่ใกล้เคียงกันมาแล้ว 


 


ความคิดเห็นจากแฟนเพจเฟซบุ๊กของสื่อแห่งหนึ่ง


ผู้สนับสนุนจากที่ต่างๆ แจกแจงประโยชน์ของการทำให้โสเภณีถูกกฎหมายเอาไว้ดังนี้


1. การขายตัวเป็นสิทธิเสรีภาพของบุคคลนั้นๆ รัฐไม่ควรปิดกั้นการใช้สิทธิของประชาชน

2. โสเภณีจะได้ทำการค้าได้อย่างเปิดเผยเหมือนอาชีพอื่น มีศักดิ์ศรี มีเกียรติ ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ ให้คนในสังคมดูถูก

3. โสเภณีจะได้สามารถเข้าถึงสวัสดิการต่างๆ ของรัฐ เช่น ประกันสังคมได้เหมือนคนอาชีพอื่น, มีกฎหมายแรงงานคุ้มครองไม่ถูกนายจ้างกดขี่เอาเปรียบ

4. เมื่อการขายบริการทางเพศถูกกฎหมายก็จะมีหน่วยงานรัฐข้ามาช่วยคุ้มครองผู้บริโภคเหมือนการซื้อสินค้าและบริการประเภทอื่นที่เมื่อลูกค้าไม่ได้รับความพึงพอใจก็มีช่องทางให้ร้องเรียนและเรียกเงินค่าบริการคืนได้มีหน่วยงานรัฐเข้ามาควบคุมคุณภาพโสเภณี จัดให้มีการตรวจโรคอย่างสม่ำเสมอช่วยให้ผู้ซื้อมั่นใจได้ว่าสินค้าสะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน

5. รัฐจะได้เก็บภาษีจากโสเภณีอย่างถูกต้องโสเภณีไม่ต้องถูกเจ้าหน้าที่รัฐเอารัดเอาเปรียบและไม่ต้องถูกรีดไถอีกต่อไป

6. โสเภณีเป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยลดความเครียดของผู้ชายและลดการก่ออาชญากรรมในสังคมมาแต่โบราณ หากไม่มีโสเภณีผู้ชายในสังคมจะข่มขืนผู้หญิงและเด็กมากกว่านี้

7. การยอมรับให้โสเภณีถูกกฎหมายเป็นการยอมรับความจริงและไม่ดัดจริตเรื่องเพศ

8. สังคมไทยจะลดอคติลงและมองการซื้อบริการทางเพศเป็นเรื่องปกติเหมือนการไปนวดคลายเครียดไม่ใช่การนอกใจ ผู้ชายไม่ต้องแอบเป็น "พ่อบ้านใจกล้า" เพราะกลัวการถูกตราหน้าว่าสำส่อน ผู้ชายจะสามารถคุยกับภรรยา แฟนสาว ลูก เพื่อนร่วมงานหรือคนทั่วไปเรื่องการซื้อบริการทางเพศได้อย่างเปิดเผยหรือเช็คอินที่จุดขายบริการทางเพศในแอพไทยชนะได้โดยไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ชายกล้าซื้อบริการโดยไม่รู้ต้องสึกผิดอีกต่อไป

9. การขายบริการทางเพศอย่างถูกกฎหมายจะช่วยจำกัดวงการค้ากามและเป็นการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ที่ตรงจุด เพราะในเมื่อมีของถูกกฎหมายให้เลือกซื้อแล้วผู้ซื้อก็ไม่จำเป็นต้องซื้อของเถื่อนอีก ผู้ที่จัดหาของเถื่อนก็จะขายของเถื่อนไม่ได้

10. หากมีขายบริการทางเพศอย่างถูกกฎหมายและเป็นที่ยอมรับในสังคมมากขึ้นผู้หญิงส่วนใหญ่ก็จะกล้าเข้ามาขายบริการทางเพศมากขึ้น ในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ผู้หญิงจะได้มีอาชีพที่ 2 หารายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ

11. เมื่อมีจำนวนโสเภณีในท้องตลาดมากขึ้นก็จะเกิดการแข่งขันทางด้านราคาและการบริการ ธุรกิจค้ากามจะได้มีการพัฒนารูปแบบให้แปลกใหม่และทันสมัยยิ่งขึ้น

12. ธุรกิจค้ากามเป็นแม่เหล็กชั้นดีที่จะดึงเม็ดเงินจำนวนมากไหลเข้าประเทศ การที่ไทยมีโสเภณีถูกกฎหมายจะเป็นเครื่องแสดงว่าบ้านเมืองเราเป็นประเทศที่เจริญแล้วทัดเทียมอารยะประเทศ หากบริหารจัดการดีๆ มีรัฐคอยสนับสนุนสักวันหนึ่งวงการโสเภณีไทยอาจขึ้นชื่อจนเป็นฮับท่องเที่ยวทางเพศแบบอัมสเตอร์ดัม


ทั้งหมดนี้คือความคิดเห็นส่วนหนึ่งจากผู้คนทั้งในโซเชียลและชีวิตจริง ที่จริงยังมีรายละเอียดปลีกย่อยมากกว่านี้แต่ผู้เขียนสรุปมาแต่ประเด็นใหญ่ๆ ให้ผู้อ่านได้ทราบความคิดเห็นและจุดยืนของผู้สนับสนุนพอสังเขป


จากความคิดเห็นเหล่านี้จะสังเกตได้ว่าผู้สนับสนุนส่วนใหญ่มองไปที่การเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ซื้อและผู้ที่เต็มใจขายมากกว่าจะยกระดับคุณภาพชีวิต, ช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในวงจรให้เลิกขายบริการทางเพศและส่งเสริมมีความรู้หรือทักษะอื่นๆ เพื่อไปประกอบอาชีพอื่น


พวกเขาให้ความสำคัญกับคุณภาพโสเภณี, ราคาค่าบริการ, ความปลอดภัยต่อโรคติดต่อ, ความสะดวกของผู้ซื้อกับผู้ขาย มากกว่าจะคิดถึงผู้หญิงและเด็กที่ด้อยโอกาสที่ถูกขบวนการค้ามนุษย์ซื้อขายเข้ามาอยู่ในวงจรค้ากาม


โสเภณีถูกกฎหมาย (1) บทนำ

ขายตัวถูกกฎหมายใครๆ ก็เป็นโสเภณีได้ง่ายจัง (1)


บทนำ


เนื่องจากประเด็น "การทำให้การค้าบริการทางเพศเป็นเรื่องถูกกฎหมายในประเทศไทย" ถูกยกขึ้นมาพูดถึงกันบ่อยขึ้นช่วงนี้ แถมสื่อหลายแห่งมักจะนำเสนอแต่ในแง่ดีและชูประเด็นสิทธิเสรีภาพของผู้หญิงเพื่อชักจูงให้คนส่วนใหญ่เห็นด้วย แต่เท่าที่เห็นยังไม่มีสื่อไหนชี้ผลเสียจากการเปิดให้ขายบริการทางเพศถูกกฎหมายอย่างเป็นกิจจะลักษณะเลย


ผู้เขียนจึงรวบรวมข้อมูลจาก ข่าว งานวิจัย บทความ หนังสือสารคดี ผนวกกับความคิดเห็นและประสบการณ์ที่มีผู้บอกเล่าทางช่องทางต่างๆ นำมาวิเคราะห์ กลั่นกรองและเรียบเรียงเป็นบทความนี้ ซึ่งความรู้ของผู้เขียน ณ ขณะที่เขียนอาจไม่สามารถเรียบเรียงออกมาได้ครบถ้วนและข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคตโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน


และอย่างที่ผู้เขียนเคยบอกเสมอว่า “ผู้อ่านไม่จำเป็นต้องเชื่อทุกสิ่งในที่ผู้เขียนเขียน” และผู้เขียนจะยินดีมากหากผู้อ่านนำคีย์เวิร์ดไปค้นข้อมูลจากหลายๆ ที่อ่านเพิ่มเติมแล้วหาข้อสรุปด้วยตัวเองเพราะมันเป็นวิธีการเรียนรู้ที่ดีที่สุด


 


ภาพโดย Gerd Altmann

https://pixabay.com/images/id-114441/


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับการขายบริการทางเพศมีเนื้อหาและประเด็นค่อนข้างเยอะ ผู้เขียนจะแบ่งทยอยลงเป็นส่วนๆ ดังนี้

1) เหตุผลที่คนบางส่วนสนับสนุนให้มีการค้าบริการทางเพศถูกกฎหมาย

2) Germany model – กรณีศึกษาจากเยอรมนีหนึ่งในประเทศที่โสเภณีถูกกฎหมาย แนวคิดแบบที่ผู้สนับสนุนในไทยต้องการ

3) ข้อโต้แย้งประเด็น “สิทธิเสรีภาพในขายตัวควรเป็นของผู้หญิงทุกคน”

4) ข้อโต้แย้งประเด็น “โสเภณีเป็นอาชีพมีเกียรติมีศักดิ์ศรีและสมควรได้รับการยกย่องเหมือนอาชีพอื่นๆ”

5) ข้อโต้แย้งประเด็น “เมื่อถูกกฎหมายโสเภณีจะได้รับสวัสดิการ เข้าถึงประกันสังคมและมีกฎหมายแรงงานคุ้มครอง”

6) ข้อโต้แย้งประเด็น “เมื่อถูกกฎหมายหน่วยงานรัฐจะเข้ามาช่วยยกระดับมาตรฐานการโสเภณีกับวงการค้ากาม”

7) ข้อโต้แย้งประเด็น “เมื่อถูกกฎหมายรัฐสามารถเก็บภาษีอาชีพโสเภณีได้”

8) ข้อโต้แย้งประเด็น “โสเภณีเป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยลดความเครียดให้ผู้ชายในสังคม”

9) ข้อโต้แย้งประเด็น “การค้ากามถูกกฎหมายไม่มีผลต่อสถาบันครอบครัว”

10) ข้อโต้แย้งประเด็น “การค้ากามถูกกฎหมายไม่มีผลต่อค่านิยม บรรทัดฐาน ศีลธรรม จรรยา”

11) ข้อโต้แย้งประเด็น “โสเภณีถูกกฎหมายแล้วใครอยากขายตัวก็ขายไป ใครไม่อยากขายก็ไม่ต้องขายไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกัน”

12) ข้อโต้แย้งประเด็น “การค้ากามถูกกฎหมายจะช่วยจำกัดวงการค้ามนุษย์”

13) ข้อโต้แย้งประเด็น “โสเภณีถูกกฎหมายเป็นเครื่องแสดงถึงความเป็นสังคมอารยะ”

14) ภาคผนวก - ธุรกิจค้ากามถูกกฎหมายกับการเหยียดผู้หญิงและการใช้ความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็ก

15) ภาคผนวก - การค้ากามกับการค้าอวัยวะ, การขายเลือด, การรับจ้างอุ้มบุญ

16) ภาคผนวก - ทำไมไทยเพิ่งมีกฎหมายห้ามให้ค้าประเวณีเมื่อปี พ.ศ. 2539 ทั้งที่โสเภณีมีมาแต่สมัยโบราณแล้ว

17) Nordic model – แนวทางในการช่วยเหลือโสเภณีอย่างเป็นรูปธรรม (เน้นเอาผิดผู้ซื้อไม่ใช่จับกุมผู้ขาย)



ภาพโดย Gerd Altmann

https://pixabay.com/images/id-225406/


ก่อนจะเข้าสู่บทความผู้เขียนขอนิยามคำว่า "โสเภณี" และ “ผู้ซื้อ” ที่จะกล่าวถึงในบทความนี้


“โสเภณี” มีความหมายตามพจนานุกรมคือ “หญิงที่หาเลี้ยงชีพด้วยการค้าประเวณี”


“โสเภณี” ที่จะกล่าวถึงในบทความนี้คือโสเภณีที่เพศกำเนิดเป็นหญิงและ “ผู้ซื้อ” ที่เป็นเพศชายเป็นหลัก


ความจริงนอกจากโสเภณีที่เป็นเพศหญิงแล้วยังมีผู้ชายและผู้หญิงข้ามเพศที่อยู่ในธุรกิจค้ากามและมี “ผู้ซื้อ” ที่เป็นเพศหญิงด้วยแต่มีสัดส่วนที่น้อยกว่ามากและไม่มีกระบวนการนำคนเข้าสู่วงจรอย่างเป็นระบบเท่าโสเภณีหญิง (คนมักเรียกโสเภณีชายว่า “ผู้ชายขายน้ำ” หรือ “ผู้ชายป้ายเหลือง”) โสเภณีชายมีรายละเอียดของปัญหาที่แตกต่างออกไปผู้เขียนจึงขอละกรณีของโสเภณีที่มีเพศกำเนิดเป็นเพศชายออกไปก่อน


ในขณะที่เด็กและผู้หญิงจำนวนมากถูกบังคับให้ขายตัว, ถูกค้ามนุษย์ แต่กลับมีผู้หญิงกลุ่มหนึ่งออกมาเรียกร้องต้องการขายตัวถูกกฎหมาย ซ้ำผู้หญิงเหล่านั้นยังอายุน้อยลงเรื่อยๆ บางคนยังใส่เครื่องแบบมัธยมตัดผมสั้นแต่โพสต์ข้อความเสนอราคาตนเองในอินเทอร์เน็ต


โสเภณีหรือผู้หญิงที่เข้ามาขายบริการทางเพศสามารถจำแนกอย่างคร่าวๆ เป็น 2 ประเภทได้แก่


1. กลุ่มที่เต็มใจ – โสเภณีกลุ่มนี้คือคนที่ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินมากขนาดอับจนหนทางจนต้องมาเป็นโสเภณี มักมีแนวคิดแบบเสรีนิยมว่าร่างกายของตน ตนจะทำอย่างไรก็ได้รวมกระทั่งขายหรือให้ผู้อื่นเช่า, ต้องการใช้ร่างกายแลกเงินมาปรนเปรอความฟุ้งเฟ้อ, แลกชื่อเสียง, ผูกมัดคนมีเงินเพื่อให้เขายอมรับเลี้ยงดู, มีความต้องการทางเพศมากกว่าผู้หญิงปกติหรือชอบมีเพศสัมพันธ์กับคนมากหน้าหลายตา, ประชดครอบครัวและสังคม


โสเภณีกลุ่มแรกนี้แม้จะมีทางเลือกให้ประกอบอาชีพอื่นแต่มักจะยืนยันที่จะขายตัวต่อไป


2. กลุ่มที่ไม่เต็มใจ – โสเภณีกลุ่มนี้คือคนที่ไม่อยากขายตัวแต่ถูกปัจจัยรอบข้างบีบให้ต้องมาอยู่ในวงจรนี้ ส่วนใหญ่ถูกหลอกหรือถูกบังคับจากขบวนการค้ามนุษย์ ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นคนยากจน, คนต่างด้าว, เด็กหญิงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ บ้างก็เป็นผู้มีความจำเป็นต้องใช้เงินด้วยเหตุผลที่น่าเห็นใจ, ไม่มีทางออกอื่นในชีวิตขนาดที่ถ้าไม่ขายตัวก็อดตาย (survival sex – มีเซ็กซ์เพื่อความอยู่รอด) 


โสเภณีกลุ่มนี้หากมีทางเลือกให้ประกอบอาชีพอื่นซึ่งแม้จะได้เงินน้อยกว่าก็พร้อมจะเลิกขายตัวทันที


โสเภณีกลุ่มที่สนับสนุนให้มีการขายบริการทางเพศอย่างถูกกฎหมายมักเป็นกลุ่มแรกเพราะคิดว่าตนจะได้ประโยชน์หากสามารถค้าบริการได้อย่างเสรี โสเภณีกลุ่มแรกนับเป็น "ยอดภูเขาน้ำแข็ง" ของโสเภณีทั้งหมดที่มีจำนวนมากมายมหาศาลในขณะที่กลุ่มที่ 2 ซึ่งเป็นโสเภณีส่วนใหญ่ต่อให้มีการผ่านกฎหมายรับรองการค้ากามก็แทบจะไม่ได้ช่วยให้ชีวิตของพวกเธอดีขึ้นเลย


วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ปกตอน 189

 


#delvento : http://www.comico.in.th/titles/130

ตอน 189 : http://www.comico.in.th/titles/130/chapters/197

ตอน 179 : ใช้ RC อ่านได้ : http://www.comico.in.th/titles/130/chapters/187

...

ช่วงนี้แอดมินไม่สะดวกเฝ้าเพจนะคะ ข้อความต่างๆ ขอเก็บไปตอบวันหลังนะคะ

ตอนนี้เข้าช่วงเปลี่ยนเน็ตของแอดมิน หลังจากติดต่อไปตามเจ้าใหญ่ๆ ได้คำตอบคือคอนโดฯ ใช้ Fiber ไม่ได้ ได้แค่ ADSL, VDSL เลยทำใจ คอตกเพราะต้องจ่ายเงินค่า ADSL เท่ากับราคา Fiber แต่ได้ความเร็วน้อยกว่า 3-4 เท่า พอปรึกษานิติฯ เขาแนะนำเจ้าเล็กที่ไม่รู้จักมาให้ ตอนแรกลังเล แต่เอาล่ะติดต่อดูฟางเส้นสุดท้ายแล้ว แล้วก็ได้ Fiber สำหรับคอนโดฯ โดยเฉพาะมา ในราคาที่ถูกลงได้ความเร็วมากกว่าเดิม 4 เท่า

สืบไปมาเจ้านี้รับเดินสาย Fiber คอนโดฯ แบรนด์หลักๆ ทั้งนั้น ก็เลยทำให้รู้ว่า ที่เน็ตเจ้าดังๆ ไม่ยอมมาเปลี่ยน Fiber ให้คอนโดฯ เพราะลงทุนไม่คุ้ม คนส่วนใหญ่ไปใช้เจ้าเล็กที่ราคาถูกกว่ากันหมดแล้ว เจ้าดังๆ เลยเลี่ยงไปทำตลาด Fiber บ้านกันหมด

ทำให้คิดว่าองค์กรขนาดใหญ่ๆ ที่ขยับตัวช้า ก็ไม่ทันบริษัทเล็กๆ ที่กล้าลุยมากกว่า

วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ปกตอน 188


#delvento : http://www.comico.in.th/titles/130

ตอน 188 : http://www.comico.in.th/titles/130/chapters/196

ตอน 178 : ใช้ RC อ่านได้ : http://www.comico.in.th/titles/130/chapters/186

...

PM 2.5 กลับมาอีกแล้ว นอกจากต้องเตรียมหน้ากากรับโควิด19 เตรียมฟิลเตอร์กรอง PM 2.5 ด้วยนะ กรุงเทพฯ จะเจอไปจนกว่าจะถึงกุมภาพันธ์ หลังจากนั้นจะเป็นภาคเหนือเชียงใหม่ เตรียมตัวรับมืออย่าประมาทนะ