วันพุธที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2563

Merry Christmas (ย้อนหลัง) and Happy New Year 2021

 


ปีใหม่แล้วแอดมินขอแจกของขวัญปีใหม่ค่ะ (รูปอยู่ในโพสตอบด้านล่าง) เป็นหินนางฟ้าสลักทำจากโรสควอตซ์ จำกันได้มั้ยที่แอดมินเคยบอกใครที่ "ซื้อ" Del Vento ทุกตอนให้ inbox มาหาแอดมิน แอดมินจะมีของขวัญชิ้นเล็กๆ สำหรับขอบคุณตอนปีใหม่


ขอบคุณนะคะที่สนับสนุนกันมานาน


Merry Christmas (ย้อนหลัง) and Happy New Year 2021

ขอให้พระอวยพรและคุ้มครองทุกท่าน

วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2563

ปกตอน 193

 


#delvento : http://www.comico.in.th/titles/130

ตอน 193 : http://www.comico.in.th/titles/130/chapters/201

ตอน 183 : ใช้ RC อ่านได้ : http://www.comico.in.th/titles/130/chapters/191

...

สวัสดี นี่คือ devilray ผู้เขียน ปรกติจะไม่ค่อยโพสต์อะไรแต่คราวนี้มีเรื่องที่ต้องแจ้งให้ผู้อ่านที่ยังติดตาม Del Vento กันอยู่ทราบ


เรื่อง Del Vento กำลังจะจบในปีหน้าเนื่องจากรายได้ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ทางบริษัทตั้งไว้


ผู้เขียนและผู้เขียนร่วมได้ขอให้ทางบก. ช่วยคุยกับทางผู้บริหารให้ยืดเวลาออกไปเพื่อที่จะสามารถเขียนได้จบโดยสมบูรณ์ตามที่ตั้งใจไว้แต่มีแนวโน้มสูงว่าจะถูกปฏิเสธ เพราะสำหรับการทำธุรกิจตัวเลขผลกำไรเป็นตัวกำหนดทุกอย่าง เสียงที่ผู้บริหารรับฟังคือ "เสียงผู้อ่าน" ที่เป็นผู้จ่ายเงินสนับสนุนผลงาน ซึ่งถึงผู้เขียนอยากเขียนให้จบสมบูรณ์มากแค่ไหนแต่ถ้าเรื่อง Del Vento ไม่สามารถทำให้ผู้อ่านจ่ายเงินสนับสนุนได้แล้วผู้เขียนก็ต้องขอยอมรับความเป็นจริงนี้


ในระยะเวลาที่เหลืออยู่ ผู้เขียนจะยังคงเขียนอย่างเต็มที่แบบที่ผ่านมาและจะไม่มีการรวบรัดเรื่องเพื่อให้จบลง ซึ่งเนื้อเรื่องดำเนินถึงแค่ไหนก็ได้แค่นั้น หากถามว่า "เพราะอะไร? ทำไมถึงไม่ตัดเรื่องให้ผู้อ่านที่ตามมานานได้อ่านตอนจบ?"


คำตอบคือเรื่อง Del Vento เป็นเรื่องแนวแก๊งสเตอร์ที่มีรายละเอียดมาก แม้ว่าเนื้อเรื่องตอนนี้จะทยอยคลายปมกับตัวละครบางส่วนไปแล้วแต่ก็ยังเหลืออีกหลายจุดที่ยังไม่คลี่คลายตามโครงที่กำหนดไว้ 


หากผู้เขียนพยายามตัดรายละเอียดทุกอย่างเพื่อให้จบลงมันจะกลายเป็นเรื่อง Del Vento ที่พิกลพิการและฉากจบที่ได้ก็จะกลายเป็นแค่การสรุปย่อซึ่งจะทำลายความรู้สึกและความคาดหวังของผู้อ่านที่ผูกพันกับเรื่องนี้มากกว่าการอ่าน Del Vento ที่ไม่จบเสียอีก ผู้เขียนจึงเลือกที่จะคงบรรยากาศและกลิ่นอายของ Del Vento แบบดั้งเดิมไว้แล้วให้ผู้อ่านได้ใช้จินตนาการเติมเต็มส่วนที่เหลือด้วยตัวเองดีกว่าที่ผู้เขียนจะทำลายทุกอย่างทิ้งด้วยการหั่นเรื่องเป็นชิ้นๆ จนเหลือแต่ซาก


ณ จุดนี้ผู้เขียนและผู้เขียนร่วมทำใจไว้แล้วว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด สิ่งที่เสียใจมีเพียงอย่างเดียวคือนี่อาจเป็นคอมมิคเรื่องแรกที่ผู้เขียนเขียนไม่จบ สำหรับนักเขียนแล้วการเขียนงานไม่จบมันคือฝันร้าย


หากมีโอกาสผู้เขียนจะลงเฉลยทุกประเด็นที่ซ่อนไว้ใน Del Vento และเฉลยว่าทำไมผู้เขียนถึงเลือก Del Vento เป็นโจทย์ที่จะเขียนในครั้งนี้ตามที่เคยคอมเมนต์ในส่วนคอมเมนต์นักเขียนเรื่อง Del Vento Chapter 56 


ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ยังคงสนับสนุนและยังอยู่กับผู้เขียนกับผู้เขียนร่วมมาโดยตลอด พวกเราซาบซึ้งใจมาก หวังว่าเราจะยังอยู่ร่วมกันต่อในเวลาที่เหลือ


วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2563

โสเภณีถูกกฎหมาย (6) ประกันสังคมและกฎหมายแรงงาน

ขายตัวถูกกฎหมายใครๆ ก็เป็นโสเภณีได้ง่ายจัง (6)

ข้อโต้แย้งประเด็น “เมื่อถูกกฎหมายโสเภณีจะได้รับสวัสดิการ เข้าถึงประกันสังคมและมีกฎหมายแรงงานคุ้มครอง”

เหตุผลของผู้สนับสนุน - โสเภณีจะได้สามารถเข้าถึงสวัสดิการต่างๆ ของรัฐ เช่น ประกันสังคมได้เหมือนคนอาชีพอื่น, มีกฎหมายแรงงานคุ้มครองไม่ถูกนายจ้างกดขี่เอาเปรียบ



ภาพจากเฟซบุ๊กและเว็บประกันสังคม

 

ความจริงไม่จำเป็นต้องรอให้การค้าประเวณีถูกกฎหมายโสเภณีก็มีประกันสังคมได้เช่นเดียวกับอาชีพรับจ้างหรือฟรีแลนซ์ ด้วยการกรอกเอกสารว่าเป็นอาชีพบริการ ลูกจ้างรายวัน หรืออื่นๆ ที่ใกล้เคียง (แต่หากมีคนยืนยันว่า "ไม่ได้! ฉันภูมิใจในความเป็นโสเภณี ฉันต้องการกรอกว่าฉันเป็นโสเภณีเท่านั้น" นั่นก็อีกเรื่อง) เพียงแต่จะโสเภณีจะยอมอดทนและยอมเหนื่อยเหมือนอาชีพอื่นเพื่อทำให้ครบเงื่อนไขหรือไม่

ผู้เขียนขอให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับระบบประกันสังคมในประเทศไทยก่อนเผื่อผู้อ่านบางท่านที่ยังไม่มีพื้นความรู้เกี่ยวกับประกันสังคมจะได้เข้าใจ

ในประเทศไทยมีผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมอยู่ 3 แบบ คือ ในมาตรา 33, มาตรา39 และ มาตรา 40



ภาพจากเฟซบุ๊กและเว็บประกันสังคม


มาตรา 40

- เป็นมาตราที่ออกแบบสำหรับแรงงานนอกระบบ เช่น พ่อค้าแม่ค้า เกษตรกร ฟรีแลนซ์ วินมอเตอร์ไซด์ อาชีพอิสระอื่นๆ

- การจ่ายเงินสมทบผู้ประกันตนมี 3 ทางเลือก คือ 70, 100, 300 บาทต่อเดือน

- สิทธิประโยชน์ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่เลือกที่จ่าย แบบสูงสุดจะได้เงินทดแทนรายได้, ทุพพลภาพ, สงเคราะห์บุตร, ชรา, ตาย

- เงื่อนไขการสมัครคือต้อง มีสัญชาติไทย (หรือผู้ที่ลงทะเบียนแรงงานต่างด้าว) , อายุ 15-65 ปี, ไม่อยู่ในประกันสังคมมาตราอื่น, ไม่มีกองทุนของราชการหรือรัฐวิสาหกิจ, ไม่ใช่ผู้พิการ

- หากต้องการรับการรักษาพยาบาลต้องไปใช้สิทธิ์บัตร 30 บาทรักษาทุกโรค (ของโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า)

- หากต้องการเน้นการออมเงินเพื่อเกษียณอายุอย่างเดียวไม่ได้ต้องการสิทธิ์อื่นๆ ผู้เขียนแนะนำกองทุน กอช. (กองทุนการออมแห่งชาติ) เพราะรัฐสนับสนุนด้านการออมเงินเพื่อการเกษียณมากกว่าการออมกับประกันสังคม

ผู้ขายตัวเป็นอาชีพหลักสามารถสมัครมาตรา 40 ได้เลยโดยไม่มีเงื่อนไขพิเศษ ซึ่งการรักษาพยาบาลต้องใช้สิทธิ์ของบัตร 30 บาทรักษาทุกโรค (ส่วนตัวผู้เขียนคิดว่าสิทธิ์ของบัตร 30 บาทรักษาทุกโรคครอบคลุมการรักษาดีกว่าสิทธิ์ของประกันสังคมอีก แต่ข้อเสียของบัตร 30 บาทรักษาทุกโรคคือสถานพยาบาลใกล้บ้านมีน้อยและคนใช้บริการมีจำนวนมาก)



ภาพจากเฟซบุ๊กและเว็บประกันสังคม

 

มาตรา 39

- เป็นมาตราที่ออกแบบสำหรับผู้ที่เคยทำงานในระบบเอกชนมาก่อนและลาออกซึ่งต้องการส่งเงินสมทบผู้ประกันตนต่อเอง

- การจ่ายเงินสมทบผู้ประกันตน คือ 432 บาทต่อเดือน

- สิทธิประโยชน์จะได้ การรักษาพยาบาล, คลอดบุตร, ทุพพลภาพ, สงเคราะห์บุตร, ชรา, ตาย

- เงื่อนไขการสมัคร คือ ต้องเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 มาก่อนอย่างน้อย 12 เดือน

- หากต้องการรับการรักษาพยาบาล ผู้ประกันตนมาตรา 39 มีสิทธิ์เข้ารับการรักษาตามสถานพยาบาลที่ขึ้นทะเบียนกับประกันสังคม

- ไม่มีเงินชดเชยการว่างงาน

ผู้ขายตัวที่อยากได้สิทธิ์การรักษาพยาบาลของประกันสังคมมาตรา 39 นี้ จะต้องเหนื่อยขึ้นอีกนิดคือ คุณต้องอดทนอยู่ในระบบแรงงานเอกชนอย่างน้อย 12 เดือน ซึ่งผู้ขายตัวแบบสมัครใจที่เป็นไซด์ไลน์ส่วนใหญ่ก็มีความรู้ความสามารถมากพอจะเข้าไปทำงานในระบบได้อยู่แล้วเพียงแต่คุณจะยอมเข้าระบบเพื่อทำประกันสังคมหรือไม่เท่านั้น

แต่สำหรับโสเภณีที่ไม่ได้เต็มใจมาขายตัวคงเข้าเงื่อนไขของมาตรานี้ยาก เพราะแต่เดิมโสเภณีกลุ่มหลังนี้ไม่เคยมีทางเลือกในชีวิตและส่วนใหญ่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าประกันสังคมคืออะไร บัตร 30 บาทรักษาทุกโรคคืออะไร และจะหวังให้แมงดาหรือซ่องช่วยเป็นธุระพาไปทำประกันสังคมก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่



ภาพจากเฟซบุ๊กและเว็บประกันสังคม


มาตรา 33

- เป็นมาตราสำหรับผู้ที่ทำงานในระบบเอกชน

- การจ่ายเงินสมทบผู้ประกันตน คือ 750 บาทต่อเดือน บริษัทสมทบอีก 750 บาทต่อเดือน (คิดจากอัตราสูงสุดของฐานเงินเดือน 15,000 บาท หากมีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายจำนวนเงินสมทบจะมีการเปลี่ยนแปลง)

- สิทธิประโยชน์ที่ได้ คือ ได้รับเงินชดเชยการว่างงาน, การรักษาพยาบาล, คลอดบุตร, ทุพพลภาพ, สงเคราะห์บุตร, ชรา, ตาย

- เงื่อนไขการสมัครคือต้องเป็นผู้ที่ทำงานในระบบเอกชน

ผู้ขายตัวที่จะอยู่ในมาตรา 33 นี้ได้ คือ ผู้ที่มีงานประจำและมีสิทธิ์ประกันสังคมตามระบบบริษัทที่ตนสังกัดอยู่แล้ว

แต่หากคุณไม่ชื่นชมงานบริษัทเอกชนที่คุณทำประจำอยู่แล้วอยากลาออกจากงานประจำเพื่อมาค้ากามเต็มตัว คุณก็แค่อดทนทำงานประจำอยู่ที่เก่าให้ได้อย่างน้อย 1 ปีแล้วลาออกมาส่งเงินสมทบผู้ประกันตนมาตรา 39 ต่อ เท่านี้คุณก็จะได้สิทธิ์ประกันสังคมเกือบเท่าเดิม (ยกเว้น ค่าชดเชยการว่างงาน)

จากข้อมูลประกันสังคมในประเทศไทยที่ผู้เขียนสรุปมาข้างต้นจะเห็นได้ว่า แม้การค้ากามจะยังไม่ถูกกฎหมายในประเทศไทยแต่โสเภณีก็ยังสามารถเข้าถึงระบบประกันสังคมมาตรา 40 และ 39 ได้เหมือนอาชีพอิสระอื่นๆ ขนาดแม่ค้าแผงลอย กรรมกร มอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ไม่รู้หนังสือยังสามารถเข้าถึงระบบประกันสังคมได้ ถ้าผู้ขายตัวอยากจะทำประกันสังคมกันจริงๆ ทำไมผู้อยากขายตัวจะเข้าถึงประกันสังคมในระบบเดียวกันไม่ได้

จึงเข้าใจได้ว่าสิทธิ์ของประกันสังคมที่ผู้อยากขายตัวเรียกร้องอยากได้มาโดยตลอดคือสิทธิ์ของประกันสังคมมาตรา 33 ที่ได้รับสิทธิมากกว่าอีก 2 มาตรา

หากการที่ผู้ขายตัวออกมาเรียกร้องให้มีโสเภณีถูกกฎหมายก็เพื่อให้ผู้ขายตัวมีสิทธิ์ของประกันสังคมมาตรา 33 โดยไม่ต้องทำงานประจำ นั่นคือ ผู้ที่เรียกร้องอยากขายตัวเหล่านั้นต้องการได้อภิสิทธิ์เหนือกว่าอาชีพอื่นๆ และ มีอภิสิทธิ์เหนือผู้ประกันตนทุกมาตรา (มาตรา 33, 39, 40) ซึ่งเป็นการเอาเปรียบและดูหมิ่นเกียรติของแรงงานอาชีพอื่นๆ ที่ต้องทนอยู่ในระบบเพื่อให้ได้รับสิทธิ์เหล่านี้



ภาพจาก https://www.mol.go.th

 

เงื่อนไขสำคัญของการจะได้รับสิทธิ์ประกันสังคมตามมาตรา 33 คือจะต้องทำงานในองค์กรเอกชนที่ถูกกฎหมายเท่านั้น นั่นคือหากโสเภณีคนใดต้องการสิทธิ์ตามมาตรา 33 โสเภณีคนนั้นจะต้องบรรจุเข้าทำงานใน "ซ่อง" หรือ "สถานบริการทางเพศ" ที่ถูกกฎหมายก่อน

ซึ่งระเบียบการทำงานในองค์กรเอกชนที่จะเข้าเงื่อนไขได้สิทธิตามมาตรา 33 คือ ต้องเข้างานตามเวลาที่กำหนด, มีวันทำงานและวันหยุดตามกฎหมายแรงงาน, งานที่นายจ้างสั่งต้องทำตามนั้น หากไม่ทำหรือทำไม่ได้ก็โดนหักเงินเดือนหรือไล่ออก

ผู้ทำงานในบริษัทเอกชนไม่สามารถเลือกเวลาทำงานตามใจตัวเองได้, เลือกงานหรือปฏิเสธงานที่เจ้านายมอบให้ไม่ได้,ทำงานเกินเวลาโดยที่ไม่ได้ค่าตอบแทนเป็นเรื่องปกติ, ถูกตามตัวให้มาทำงานนอกเวลางานหรือวันหยุดเป็นเรื่องปกติ, ต้องพบกับการโดนเอาเปรียบจากนายจ้างและได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมแต่ก็ต้องอดทนหากไม่อยากตกงาน เหล่านี้คือรสชาติชีวิตมนุษย์เงินเดือนมาตรา 33

หากจะเรียกร้องให้การค้ากามและโสเภณีถูกกฎหมายแล้วซ่องหรืออาบอบนวดมีรูปแบบเป็นองค์กรเอกชน นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับโสเภณีผู้เป็นลูกจ้างในระบบ

- เมื่ออยู่ในองค์กรคุณจะมีนายจ้างและนายจ้างจะเป็นคนเลือกลูกค้าให้คุณ คุณไม่มีสิทธิ์เลือกแขกอย่างอิสระหรือมีสิทธิ์ปฏิเสธลูกค้าที่นายจ้างจัดมา

- คุณไม่มีสิทธิ์เลือกเวลาทำงานได้อย่างอิสระ ต้องทำงานตามวันที่บริษัทกำหนดและมีวันหยุดตามกฎหมายแรงงาน

- วันไหนคุณลาหยุดคุณอาจไม่ได้เงินค่าจ้าง บางบริษัทนับวันลาของคุณเพื่อหักเงินชดเชยวันที่คุณหยุด

- คุณจะเจอค่าภาษีสังคมจากบริษัทที่สารพัดจะอ้างขึ้นมาเพื่อหักค่าแรงคุณ เช่น ค่าชุดเครื่องแบบพนักงาน, ค่าเงินประกันความเสียหาย , ค่าของใช้ส่วนตัว (ที่ถูกบังคับซื้อจากบริษัท)

- เมื่อคุณทำงานล่วงเวลาหรือนอกเวลาคุณอาจไม่ได้เบี้ยเลี้ยงเพิ่มเพราะไม่ใช่ทุกบริษัทที่จะให้ และคุณอาจโดนนายจ้างใช้คุณ “ทำงานล่วงเวลา” ส่วนตัวให้กับนายจ้างหรือคนที่นายจ้างต้องการรับรองโดยที่คุณเรียกร้องอะไรเพิ่มไม่ได้



https://seminardd.com/upload/F5V457WKOTD00W9ZYH6CJGFHX_small.jpg

 

- คุณอาจต้องผิดหวังหากคิดว่ากฎหมายแรงงานจะสามารถบังคับให้นายจ้างปฏิบัติต่อคุณอย่างเป็นธรรม ขนาดพนักงานเอกชนอาชีพอื่นๆ ยังไม่เคยเอาชนะนายจ้างได้ อาชีพโสเภณีจะมีสิทธิ์พิเศษอะไรที่นายจ้างจะต้องเอาใจหรือถนอมความรู้สึกเพื่อให้ภักดีกับองค์กร

ทุกองค์กรต่างต้องการผลกำไรและในเมื่อค่าจ้างคือหนึ่งในต้นทุนเขาก็ต้องใช้คุณทำงานให้เขามากที่สุด หากคุณทำไม่ได้เขาก็เอาคุณออกแล้วหาคนอื่นมาเสียบแทน ยิ่งงานประเภท "ขายตัว" ที่เน้นความสาวความสวยสดซิงมากกว่าฝีมือหรือประสบการณ์ นายจ้างยิ่งยินดีหาสาวสวยหน้าใหม่ที่มีอยู่ดาษดื่นมาเสียบแทนคุณที่เรื่องมากจะเรียกร้องเอานู้นเอานี่ อย่าลืมว่าชีวิตจริงไม่ใช่นิยาย อย่าสำคัญผิดว่าคุณมีจิ๋มทองคำที่ผู้ชายทุกคนจะต้องมาง้อขอมีอะไรกับคุณ ถ้าคุณเล่นตัวมากเขาก็แค่ถีบหัวส่งแล้วไปหาคนอื่น

- อย่าหวังว่านายจ้างจะออกค่ารักษาพยาบาลให้ มีบริษัทเอกชนจำนวนมากให้พนักงานไปใช้สิทธิ์รักษาพยาบาลของประกันสังคมโดยไม่มีการช่วยอะไรเพิ่มเลย



https://moneyhub.in.th/article/work-probation/

 

- อย่าหวังว่านายจ้างจะชดเชยหากมีการไล่ออกหรือลาออก นายจ้างพร้อมจะยัดข้อหาการทำงานพลาดหรือข้อหาร้ายแรงอื่นๆ ให้กับคุณเมื่อเขาจะไม่เอาคุณไว้ซึ่งอาจทำให้คุณหมดสิทธิ์ขอเงินชดเชยจากประกันสังคมด้วยซ้ำ เช่น การยัดข้อหายักยอกเงินจากลูกค้าถ้าลูกค้าให้ทิปส่วนตัวกับคุณ

เรื่องการอมค่าทิปดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อยที่ปกติใครๆ ก็ทำกันและนายจ้างมักจะทำเป็นไม่เห็นไม่ว่าอะไร แต่ถ้าเขาจะเอาคุณออกเมื่อไรมันจะถูกยกมาใช้ทันที ซึ่งมันเป็นข้อหาร้ายแรงพอที่ทำให้นายจ้างสามารถไล่คุณออกได้โดยไม่ต้องจ่ายเงินชดเชย (แถมประกันสังคมจะไม่ชดเชยเงินว่างงานให้ถ้าคุณโดนไล่ออกข้อหาเกี่ยวกับฉ้อโกงหรือลักทรัพย์บริษัท)

และนายจ้างชั้นเลวบางคนยังสามารถเล่นแง่ไล่คุณออกก่อนจบช่วงทดลองงานได้ด้วยเพื่อที่นายจ้างจะได้ไม่ต้องทำประกันสังคมให้คุณหรือจ่ายค่าชดเชยใดๆ เพียงใช้ข้ออ้างว่าคุณ "ทดลองงานไม่ผ่าน"

ผู้เขียนขอให้ความรู้เพิ่ม ปกติการทำงานทั่วไปขององค์กรเอกชนมักจะมีการทดลองทำงานตั้งแต่ 1 วัน - 3 เดือน ซึ่งจะมีการจ่ายค่าแรงส่วนหนึ่ง,เต็มจำนวนหรือไม่จ่ายเลยขึ้นอยู่กับการตกลงกันระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง หากยังอยู่ในช่วงทดลองงานบริษัทจะไม่ขึ้นทะเบียนเป็นลูกจ้างประจำและจะไม่ทำประกันสังคมให้ ผู้ทดลองงานจะมีสถานะเป็นแค่ลูกจ้างชั่วคราวจ่ายค่าแรงเป็นรายวันตามกฎหมายค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งลูกจ้างอาจจะได้รับทุกวัน, สัปดาห์หรือครบเดือนค่อยได้ ขึ้นอยู่กับระบบของบริษัทนั้นๆ

ระยะเวลาทดลองงานส่วนใหญ่อยู่ที่ 3 เดือน หากคุณไม่เด็ดพอก็อาจโดนเขี่ยออกพร้อมกับเงินชดเชยเพียงน้อยนิด

โดยปกติแล้วเด็กนั่งดริ๊งค์ทั่วไปจะอยู่ร้านเดิมนานราวๆ 3-6 เดือนแล้วค่อยย้ายร้านไปอยู่ร้านใหม่เพื่อไปเป็น "เด็กหน้าใหม่" ของที่อื่นต่อหมุนเวียนกันไป โดยมักจะเริ่มจากตัวเมืองกรุงเทพฯ เขตใน, กรุงเทพฯ เขตนอก, จังหวัดข้างเคียง, จังหวัดท่องเที่ยว, จังหวัดหัวเมืองใหญ่, และสุดท้ายจังหวัดชายแดน มีบ้างที่ต้องออกไปทำงานต่างประเทศ

เด็กนั่งดริ๊งค์ที่เด็ดจริงลูกค้าเยอะก็อาจจะอยู่ร้านเดิมได้ถึง 1 ปีแต่ไม่เกินจากนั้นเพราะจะกลายเป็นของเก่าที่ลูกค้าไม่สนใจเรียกมานั่งด้วยแล้ว

ช่วงทดลองงาน 3 เดือนก็คือจังหวะที่นายจ้างบางคนใช้ช่องโหว่เพื่อหาประโยชน์จากผู้ทดลองงานแล้วรีบถีบหัวส่งก่อนครบ 3 เดือนนั่นเอง

เล่ห์เหลี่ยมของนายจ้างมีมากมายกว่าที่คุณคิด ยิ่งในวงการที่ขายผู้หญิงเป็นสินค้าก็อย่าหวังว่าเขาจะเห็นใจ

หากผู้เรียกร้องอยากขายตัวหวังว่าขายตัวเป็นอาชีพแล้วจะได้วางตัวสวยๆ เก๋ๆ รับงานโดยถือคติ "ฉันเลือกแขกได้ ฉันเลือกเวลาทำงานได้ ฉันเป็นนายของตัวเองไม่มีใครมาบังคับฉันได้" แล้วจะได้รับสิทธิประโยชน์หรูหรากว่าอาชีพอื่นเพียงเพราะคุณเป็นคนขายจิ๋มนั่นคือ คุณกำลังฝัน

ขนาดพนักงานเอกชนอาชีพอื่นๆ กฎหมายแรงงานยังคุ้มครองไม่ทั่วถึงและโดนนายจ้างใช้ช่องโหว่เอาเปรียบอยู่เป็นนิจ คุณคิดหรือว่าเมื่อโสเภณีถูกกฎหมายแล้วอยู่ในระบบการจ้างงานแบบเอกชนกฎหมายแรงงานจะช่วยเหลืออาชีพโสเภณีได้จริง



ภาพข่าวหญิงเยอรมันปฏิเสธงานค้ากามจึงถูกยกเลิกสิทธิ์ได้รับเงินชดเชยการว่างงาน จากเว็บข่าว (ที่ต้องเสียเงินอ่าน) The Telegraph

 

ยกตัวอย่างกรณีที่เกิดขึ้นจริงจากประเทศที่การค้ากามถูกกฎหมาย นายจ้างประกาศรับสมัครงานตำแหน่งพนักงานหญิง, สาวเสิร์ฟ, แคชเชียร์หญิง แต่เมื่อได้ลูกจ้างผู้หญิงตามที่ต้องการแล้วก็บังคับให้ลูกจ้างหญิงไปขึ้นทะเบียนเป็น "ผู้ขายบริการทางเพศ" เพื่อมารับแขกของร้าน ถ้าลูกจ้างหญิงไม่ยอมขึ้นทะเบียนหรือไม่ยอมรับแขกก็ข่มขู่, บีบบังคับให้ลูกจ้างลาออกหรือไล่ออกโดยไม่มีค่าชดเชยให้

นี่คือเล่ห์เหลี่ยมส่วนหนึ่งของนายจ้างที่เล่นแง่บีบบังคับให้หญิงที่ไม่อยากขายตัวต้องมาขาย และต่อให้เป็นหญิงที่เต็มใจขายตัวเมื่ออยู่ในซ่องแล้วนายจ้างก็พร้อมหาวิธีเอาเปรียบได้อีกสารพัดจนคุณคิดไม่ถึง

ปัจจุบัน ลูกจ้างส่วนใหญ่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายแรงงานน้อยมาก ขนาดคนที่จบปริญญาตรีหลายต่อหลายคนยังไม่รู้เรื่องพื้นฐานที่แรงงานต้องรู้เลยหรือต่อให้รู้ลูกจ้างจำนวนมากก็ยังต้องจำยอมให้นายจ้างกดขี่ด้วยเหตุผลต่างๆ ฉะนั้นการฝันอย่างโลกสวยว่า "ถ้าค้ากามถูกกฎหมายแล้ว ผู้หญิง, แรงงานหญิง จนถึงโสเภณีถูกกฎหมายจะรู้ถึงสิทธิ์ของตัวเองแล้วพร้อมใจกันออกมาฟ้องร้องนายจ้างเมื่อโดนกดขี่" นั้นยิ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยในโลกของความเป็นจริง

หรือต่อให้มีคนกล้ารวมตัวกันไปยื่นเรื่องร้องทุกข์กับกระทรวงแรงงานหรือหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องก็คงยากที่จะได้รับความช่วยเหลืออย่างจริงจังหรือได้รับความเป็นธรรมอย่างรวดเร็ว เพราะที่ผ่านมาขนาดลูกจ้างอาชีพอื่นๆ ที่มีความรู้เรื่องกฎหมายแรงงานก็ยังมีน้อยมากที่จะสู้คดีชนะนายจ้าง อย่าลืมว่านายจ้างกระเป๋าเงินใหญ่กว่าลูกจ้างเสมอ เขาสามารถหาทนายเก่งๆ มาสู้กับลูกจ้างได้สบายหรือจะยื้อคดีเป็นปีเขาก็ไม่เดือดร้อน ลูกจ้างเหล่านั้นต่างหากที่จะต้องเสียทั้งเงินเสียทั้งเวลาไปกับการสู้คดีจนในที่สุดแพ้ภัยตัวเองไม่ยอมสู้ต่อเกือบทั้งนั้น

ลูกจ้างส่วนใหญ่จึงยังต้องยอมก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไปแม้ว่าจะถูกกดขี่เพราะไม่อยากมีปัญหาและไม่อยากตกงาน

ฉะนั้นต่อให้การค้ากามหรือซ่องเป็นองค์กรการค้าถูกกฎหมายก็ไม่มีทางเปลี่ยนให้สภาพแวดล้อมในการทำงานของโสเภณีในซ่องให้ดีขึ้นได้ในชั่วข้ามคืน

วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2563

ปกตอน 192

 

#delvento : http://www.comico.in.th/titles/130

ตอน 192 : http://www.comico.in.th/titles/130/chapters/200

ตอน 182 : ใช้ RC อ่านได้ : http://www.comico.in.th/titles/130/chapters/190

...

ตอน 192 อัพแล้วนะคะ แต่ระบบมันขึ้นหยุดซึ่งวันจันทร์จะบอกบก.อีกที 


หรืออาทิตย์หยุดจริงๆ ดี แหะๆๆๆ

วันอังคารที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2563

โสเภณีถูกกฎหมาย (5) เกียรติและศักดิ์ศรี

ขายตัวถูกกฎหมายใครๆ ก็เป็นโสเภณีได้ง่ายจัง (5)


ข้อโต้แย้งประเด็น “โสเภณีเป็นอาชีพมีเกียรติมีศักดิ์ศรีและสมควรได้รับการยกย่องเหมือนอาชีพอื่นๆ”


เหตุผลของผู้สนับสนุน - โสเภณีจะได้ทำการค้าได้อย่างเปิดเผยเหมือนอาชีพอื่น มีศักดิ์ศรี มีเกียรติ ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ ให้คนในสังคมดูถูก


การทำให้การค้าประเวณีถูกกฎหมายและการทำให้โสเภณีเป็นอาชีพถูกกฎหมายในทางทฤษฎีอาจดูเหมือนช่วยโสเภณีให้มีเกียรติหรือมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น แต่ในทางปฏิบัติสิ่งเหล่านี้แทบจะไม่ได้ช่วยให้คนที่เป็นโสเภณีอยู่แล้วมีเกียรติหรือมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นเลย



meme บนอินเทอร์เน็ตที่ผู้ชายในต่างประเทศทำขึ้นเพื่อประชดส่อเสียดดูถูกผู้หญิงสมัยนี้ว่า แทนที่จะรักดีเรียนจบแล้วทำงานแต่ส่วนใหญ่ดันอยากรวยลัดด้วยการขายตัว, แก้ผ้าโชว์หวิวบนแอพฯ ดังแห่งหนึ่ง


คำว่า "กะหรี่" (whore, slut) ยังคงเป็นคำด่ายอดนิยมที่คนทั่วโลกโดยเฉพาะผู้ชายใช้ด่าและเหยียดหยามผู้หญิง


ขณะที่ผู้ชายในประเทศที่การค้ากามถูกกฎหมายสามารถเข้าถึงสื่อลามกและซื้อบริการทางเพศได้อย่างเสรี เคยชินกับการที่ผู้หญิงค้าบริการทางเพศ และเป็นผู้ใช้ประโยชน์จากวงจรค้ากามมานานแล้ว แต่พวกเขากลับยังคงใช้คำว่า "กะหรี่" ด่าเหยียด ผู้หญิงที่พวกเขาไม่ชอบ, ผู้หญิงในสื่อลามกที่พวกเขาเสพและโสเภณีที่พวกเขาซื้อบริการ


นั่นเป็นเครื่องแสดงว่าในสายตาของคนในประเทศ free sex ที่การค้ากามถูกกฎหมายแล้ว โสเภณี ผู้หญิงขายตัว หรือผู้หญิงที่มีคู่นอนจำนวนมากยังคงถูกมองเป็นแค่วัตถุทางเพศ ถูกด้อยค่าและเป็นที่น่ารังเกียจ



meme บนอินเทอร์เน็ตในต่างประเทศ ที่ผู้ชายทำขึ้นเพื่อล้อเลียนกึ่งดูถูกผู้หญิงหัวก้าวหน้า (วิกผมสีรุ้งเป็นสัญลักษณ์สนับสนุน LGBT) ที่ขายรูปโป๊ตัวเองบนแอพฯ ดังแห่งหนึ่งว่า "คุณสมบัติอย่างเดียวที่ฉันมีคือมีรู (ไว้ร่วมเพศ)" 


คนทั่วไปแม้ในประเทศที่ธุรกิจค้ากามถูกกฎหมายมานานแล้ว หากพบว่าหญิงที่ตนรู้จักเคยขายตัวมาก่อนส่วนใหญ่ก็ยังรังเกียจ หญิงเหล่านั้นมักถูกผู้ชายแบล็กเมลให้จ่ายค่าปิดปากหรือข่มขู่ให้ยอมหลับนอนด้วย หากไม่อยากให้ความลับเรื่องที่เคยขายตัวมาก่อนเปิดเผย 


ปัจจุบันเศรษฐกิจแบบทุนนิยมกระตุ้นความต้องการทางวัตถุเป็นตัวเร่งให้เด็กผู้หญิงอายุน้อยจำนวนมากเข้าสู่วงจรค้ากาม หรือถ่ายรูป, คลิปโป๊เพื่อขาย เพราะคิดสั้นๆ ว่ามันได้เงินง่ายและเป็นงานสบาย ปลอดภัย ไม่มีอะไรให้เสีย หลายคนคิดว่าจะทำแค่ไม่กี่ครั้งให้พอเก็บเงินได้แล้วจะเลิกไปทำอย่างอื่น แต่เด็กสาวเหล่านั้นไม่ตระหนักเลยว่าหากเรื่องที่ตัวเองเคยขายตัว, ถ่ายรูปหรือคลิปโป๊หลุดออกไป คนส่วนใหญ่สังคมโดยเฉพาะผู้ชายจะดูถูกเหยียบย่ำจนแทบจะไม่มีที่ยืนในสังคมได้อีก


แม้กระทั่งในประเทศที่การค้ากามถูกกฎหมาย ผู้หญิงหลายคนต้องเสียอนาคต ประกอบอาชีพอื่นไม่ได้ ไม่มีใครยอมจ้างงาน อยู่ที่อยู่เดิมนานๆ ไม่ได้ต้องเปลี่ยนที่อยู่ไปเรื่อยๆ หรือไม่มีใครอยากมีความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนด้วย เพราะถูกตราหน้าว่าเป็น "ผู้หญิงขายตัว" สำส่อน เป็นของที่ถูกใช้งานแล้ว ผ่านผู้ชายจนยับเยินไม่มีใครเอา


นี่เป็นเครื่องแสดงให้เห็นว่าต่อให้มีกฎหมายอนุญาตให้ค้ากามเสรีก็ไม่ได้ช่วยให้คนในสังคมมองหญิงขายตัวดีขึ้นมาเลย หากเคยขายตัวหรือถ่ายโป๊มาก่อนแม้แค่ครั้งเดียว ต่อให้เลิกแล้วและทำคุณงามความดีมากแค่ไหน เรื่องที่เคยขายตัวหรือถ่ายโป๊ยังต้องเก็บเป็นความลับต่อไป หากไม่อยากถูกรังเกียจหรือกีดกันออกจากสังคม แต่ส่วนใหญ่มักจะปกปิดไม่สำเร็จเรื่องที่เคยขายตัวหรือถ่ายโป๊จะถูกขุดคุ้ยขึ้นมาโจมตีในวันที่ผู้หญิงคนนั้นประสบความสำเร็จเสมอ



รูปและข้อมูลจาก https://www.newstalkzb.co.nz/news/national/catherine-healy-becomes-a-dame/


ที่นิวซีแลนด์มีข่าวว่าอดีตโสเภณีซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนเป็นนักเคลื่อนไหวชื่อ Catherine Healy ได้ตำแหน่ง Dame จากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร


"Dame" เป็นตำแหน่งที่มอบให้ผู้หญิงที่ทำผลงานให้ประเทศอังกฤษเหมือนกับตำแหน่ง "Sir" ที่มอบให้ผู้ชาย


มีฝ่ายเรียกร้องให้ค้ากามถูกกฎหมายได้นำกรณีของ Catherine Healy มาอ้างว่า โสเภณีก็สามารถมีเกียรติและสามารถถูกยกย่องขึ้นมาเป็น "Dame" ได้ โดยไม่พูดถึงเหตุผลที่ทำให้เธอได้ตำแหน่ง "Dame" 


Catherine Healy ได้ตำแหน่ง "Dame" เพราะเธอมีผลงานด้านการเรียกร้องให้ผู้หญิงโสเภณีมีความปลอดภัย ไม่ต้องเจอความรุนแรงตอนทำงาน เรียกร้องให้มีการดูแลเรื่องสุขอนามัยและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และเรียกร้องให้ใส่ใจเรื่องสิทธิความเป็นมนุษย์ของผู้หญิงที่ทำงานค้ากาม จนทำให้รัฐบาลนิวซีแลนด์เข้ามาดูแลเรื่องการค้าบริการทางเพศอย่างจริงจัง


นั่นคือเธอได้ตำแหน่ง "Dame" จากการที่เธอทำงานเป็นนักเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิให้กับโสเภณี ไม่ใช่เพราะเธอเป็นโสเภณี


แต่น่าเกลียดที่บทความจำนวนมากบิดเบือนข้อเท็จจริงทำให้ผู้คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า "ควีนเอลิซาเบธที่ 2 มอบตำแหน่ง "Dame"  ให้โสเภณี" เพราะเธอเป็นสุดยอดโสเภณีที่มีคุณสมบัติของโสเภณีดีเด่น เช่น มียอดขายสูง ลีลาเด็ด ชั่วโมงทำงานมานาน


แต่การได้ตำแหน่ง "Dame" ของ Catherine Healy ก็ไม่ได้ช่วยยกระดับหรือส่งเสริมให้โสเภณีมีเกียรติหรือศักดิ์ศรีมากขึ้นในสายตาของคนในสังคมอย่างที่ฝ่ายเรียกร้องให้ค้ากามถูกกฎหมายกล่าวอ้าง



ภาพจากสื่อข่าว เมื่อเกิดกรณีผู้หญิงถูกรุมข่มขืน คนในสังคมส่วนหนึ่งพร้อมจะโทษเหยื่อ (victim blaming) ว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการข่มขืน และหนึ่งในสาเหตุยอดนิยมที่ถูกใช้ในการปรักปรำเหยื่อคือ "เป็นผู้หญิงขายตัว" หรือ "ตกลงค่าตัวกันไม่ได้" ในกรณีของข่าวนี้ไม่ได้ฟันธงว่า "มีการข่มขืนเกิดขึ้นจริงหรือไม่" แต่จะให้ดูทัศนคติของคนทั่วไปที่มีต่อข่าว โดยเฉพาะผู้ชายที่ยังคงเหยียดหยามโสเภณี คิดว่าการที่โสเภณีถูกทำร้าย, คุกคามทางเพศ กระทั่งถูกข่มขืน เป็นเรื่องปกติและมองว่าไม่ใช่เรื่องร้ายแรงเพราะก็แค่โสเภณีโก่งค่าตัว


จากกรณีศึกษาของ Germany model ที่เคยกล่าวไว้ในตอนที่ 3 จะเห็นได้ว่า แนวคิดของนักการเมืองเยอรมนีช่วงที่อนุมัติให้การค้ากามถูกกฎหมายและพยายามยกฐานะให้โสเภณีมีศักดิ์เท่ากับอาชีพอื่นๆ คือต้องการเปิดทางให้โสเภณีได้มีการทำสัญญาว่าจ้างหรือใบรับรองการทำงานแบบพนักงานบริษัท สามารถฟ้องเรียกค่าชดเชยการทำงานได้หรือทำประกันสุขภาพได้ มีกองทุนออมเงินหลังเกษียณหรือสิทธิต่างๆ เหมือนอาชีพอื่น 


แต่ในทางปฏิบัติมันไม่สวยหรูแบบนั้นเพราะข้อเท็จจริงคือเมื่อหญิงที่เคยเป็นโสเภณีเข้าไปสมัครทำงานในอาชีพอื่นส่วนใหญ่จะไม่มีใครยอมรับเข้าทำงาน ไม่มีโสเภณีฟ้องเรียกค่าชดเชยการทำงาน และมีโสเภณีจำนวนน้อยมากที่ยอมไปลงทะเบียนกับหน่วยงานรัฐเพื่อรับสวัสดิการ



sex worker ในเยอรมัน ออกมาถือป้ายประท้วงช่วงปิดเมืองเนื่องจาก COVID-19 ทั้งที่ผู้ขายเหล่านี้ขึ้นทะเบียนตามกฎหมายแต่กลับไม่ได้เงินชดเชยหรือการดูแลจากทั้งรัฐและนายจ้าง

ภาพและข้อมูลจาก https://www.dailymail.co.uk/news/article-8514611/Hamburg-sex-workers-demand-Germanys-brothels-reopen.html


สภาพของเยอรมนีหลังออกกฎหมายให้การค้าบริการทางเพศไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมายไม่ได้สวยหรูสำหรับโสเภณีแบบที่ฝ่ายซ้าย (ลิเบอรัล– เสรีนิยม) คิด เพราะคนที่ร่ำรวยและได้ประโยชน์สูงสุดจากกฎหมายอนุญาตค้ากามคือ แมงดา, นายทุน และผู้ชายที่ซื้อบริการ 


ส่วนโสเภณีที่อยู่ในวงจรก็ต้องปากกัดตีนถีบเหมือนเดิมและอาจต้องลำบากขึ้น เพราะเมื่อใครๆ ก็สามารถขายตัวได้อย่างถูกกฎหมาย ทำให้เกิดการบ่าทะลักของผู้หญิงขายตัวทั้งที่ถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมายเข้ามาในตลาด จนเกิดการตัดราคากันเอง ปริมาณงานน้อยลง หรืองานเท่าเดิมแต่ได้ค่าตอบแทนน้อยลง 



ภาพภายใน Paradise ซ่องระดับ mega-brothel หนึ่งในนายทุนที่ได้ประโยชน์เต็มๆ จากผู้หญิงและวงจรค้ากามถูกกฎหมาย

รูปและข้อมูลจาก http://s.telegraph.co.uk/graphics/projects/welcome-to-paradise/


เคยมีนักข่าวเข้าไปสัมภาษณ์ Jürgen Rudloff เจ้าของซ่อง Paradise ซึ่งเป็นซ่องใหญ่ระดับ mega-brothel (ซ่องขนาดใหญ่มีหลายสาขาในเยอรมัน) ว่า "เขาจะมีความสุขมั้ย หากลูกสาว 2 คนของเขาทำงานที่ Paradise”


เขาตอบว่า "คำถามนี้โหดร้ายมาก ผมไม่อยากดูหมิ่นโสเภณี แต่ผมพยายามเลี้ยงลูกของผมให้เขามีโอกาสทางอาชีพ  โสเภณีส่วนใหญ่ไม่มีโอกาสเหล่านั้นถึงต้องมาทำงานแบบนี้ มันเป็นเรื่องที่จินตนาการไม่ได้ แล้วผมก็ไม่อยากคิดถึงมันด้วย"


แม้แต่เจ้าของซ่องขนาดยักษ์ที่มีโสเภณีถูกกฎหมายนับร้อยนับพันทำงานหมุนเวียนอยู่ในนั้น ยังไม่อยากให้ลูกสาวตัวเองเป็นโสเภณีก็เป็นเครื่องยืนยันอย่างดีว่า ผู้ที่อยู่ในวงการค้ากามเองไม่เคยมองว่า “โสเภณี” เป็นอาชีพที่มีเกียรติมีศักดิ์ศรี หรือสมควรส่งเสริมให้เป็นอาชีพในฝันของผู้หญิงจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงในครอบครัวของตัวเอง อย่างที่พวกลิเบอรัลจินตนาการไว้


วันอังคารที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2563

โสเภณีถูกกฎหมาย (4) สิทธิเสรีภาพในการขายตัว

ขายตัวถูกกฎหมายใครๆ ก็เป็นโสเภณีได้ง่ายจัง (4)


ข้อโต้แย้งประเด็น "สิทธิเสรีภาพในการขายตัวควรเป็นของผู้หญิงทุกคน"


เหตุผลของผู้สนับสนุน - การขายตัวเป็นสิทธิเสรีภาพของบุคคลนั้นๆ รัฐไม่ควรปิดกั้นการใช้สิทธิของประชาชน


 


ภาพจาก - https://youngmormonfeminists.org/2014/04/22/sex-positive-anti-sex-work-changing-hearts-and-minds-on-prostitution/


โดยส่วนตัวแล้วผู้เขียนยังเชื่อว่าคนส่วนใหญ่อยากเป็นคนดีไม่อยากทำผิด แต่บางช่วงของชีวิตเราอาจไม่มีทางเลือกมากนัก หรืออาจถูกสถานการณ์บีบบังคับให้ต้องทำสิ่งไม่ดีเพื่อเอาตัวรอด เช่น อย่างเบาๆ ก็โกหกหรือใส่ร้ายคนอื่น หรืออย่างหนักๆ ก็อาจต้องไปกู้หนี้นอกระบบ, ขายตัวหรือขายยา


หากทำด้วยภาวะจำยอมผู้เขียนจะไม่ตัดสินเพราะความจำเป็นของคนเราไม่เหมือนกัน ที่เหลือก็ว่ากันไปตามกฎหมาย 


คนที่ตระหนักรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองจำเป็นต้องทำเพื่อความอยู่รอดเป็นสิ่งไม่ดีแล้วพยายามหาทางเลิก คือคนที่น่าเห็นใจและสมควรได้รับโอกาสจากสังคมในการเริ่มต้นใหม่ 


แต่คนที่ตั้งใจกระโจนใส่สิ่งไม่ดีทั้งที่ไม่มีความเดือดร้อนจำเป็นแต่กระทำเพราะเห็นว่ามัน "ง่ายและเร็ว" เช่น ไปกู้นอกระบบมาซื้อสิ่งฟุ่มเฟือย, ค้ายาหรือขายตัวมาใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย คนเหล่านี้ไม่สมควรได้รับความเห็นใจเพราะพวกเขาจงใจทำสิ่งที่ไม่ดีเพียงเพราะความมักง่ายและรักสบาย


และคนที่น่ารังเกียจที่สุดคือคนที่คิดจะกลับผิดเป็นถูก เพียงเพราะตัวเองมักง่ายและรักสบายแต่ไม่อยากถูกคนรอบข้างประณามที่ตัวเองกำลังทำสิ่งที่ผิด หรือมัวเมาอยู่ในอบายมุข


ผู้ที่สนับสนุนการค้าประเวณีโดยเฉพาะผู้หญิงที่สมัครใจขายบริการทางเพศมักจะอ้างสิทธิ์ในร่างกายของตนว่า "ตัวกู จิ๋มกู กูจะขายก็เรื่องของกู" มองว่าการขายตัวคือการมีอำนาจในร่างกายตัวเองหรือเสริมอำนาจความเป็นเพศหญิง (female empowerment) แล้วมักมองผู้ต่อต้านว่าเป็นพวกหัวโบราณ, ผัวไม่รัก, ขี้เหร่, เกลียดเซ็กซ์, ขี้หึงขี้อิจฉา, พวกชอบขัดความสุขของผู้ชาย ฯลฯ


นั่นเป็นความเข้าใจผิด


 


ภาพจาก - https://newrepublic.com/article/155481/liberal-feminism-sex-work-problem


ความมีอำนาจไม่เคยเกิดจากการลดตัวเป็นวัตถุทางเพศของใคร อำนาจที่แท้จริงในธุรกิจค้ากามคือ "เงิน" ที่สามารถทำให้ผู้หญิงยอมแก้ผ้านอนกับชายที่ไม่ได้รักไม่ได้ชอบ ในวงการค้ากามอำนาจอยู่ในมือผู้ซื้อ ส่วนโสเภณีคือผู้ถูกอำนาจควบคุมให้ทำทุกอย่างเพื่อเงิน


ผู้หญิงบางคนอาจเถียง "ฉันมีอำนาจที่จะเลือกและปฏิเสธลูกค้าได้" นั่นไม่ใช่อำนาจเพราะเมื่อคุณปฏิเสธเขาก็แค่ไปซื้อคนอื่น เขาไม่จำเป็นต้องง้อคุณเพราะคุณไม่ใช่ผู้ผูกขาดจิ๋มอยู่เพียงผู้เดียว ต่อให้ไม่ได้นอนกับคุณเขาก็ไม่ได้เสียหายหรือจะเป็นจะตายอะไรมากมาย แต่คุณต่างหากที่จะเสียรายได้ และเมื่อถึงคราวที่คุณแก่ตัวลงไม่สาวไม่สวยเหมือนเดิมถึงตอนนั้นถ้าคุณยังยึดอาชีพขายตัวอยู่ คุณจะยังมี "อำนาจ" ในการเลือกลูกค้าได้เหมือนสมัยสาวๆ หรือไม่?


ในธุรกิจค้ากามผู้หญิงไม่ได้มีอำนาจอะไรเลย 


การนอนกับชายที่มีอำนาจแล้วเขารับเลี้ยงเป็นเมีย มีข้าทาสบริวารรอบล้อม มีทรัพย์สินเงินทอง หรือได้รับอภิสิทธิ์อภิสิทธิ์ต่างๆ นั่นคือการใช้ความเป็นหญิงเพื่อ "ขอยืม" อำนาจจากผู้ชายและอำนาจก็ยังอยู่ที่ผู้ชาย 100% เมื่อใดที่ผู้ชายริบอำนาจคืนแล้วถีบหัวส่งผู้หญิงก็หมดอำนาจแล้ว


และแม้มนุษย์ทุกคนมีสิทธิในร่างกายของตนหรือผู้หญิงบางกลุ่มมีอิสระที่จะขายร่างกายตนก็จริง แต่การจะเรียกร้องให้สังคมเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์เพียงเพื่อให้พวกตนได้ใช้สิทธิ์นั้นโดยไม่ต้องละอาย ก็ต้องคำนึงถึงผลกระทบด้วยว่ามันจะเปิดช่องให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาหรือไม่ 


ถ้าไม่คิดถึงคนอื่นเลยจะเอาแต่ได้ฝ่ายเดียวก็คือเห็นแก่ตัวไม่คิดถึงส่วนรวม


ซึ่งแน่นอนว่าการทำให้ธุรกิจค้ากามถูกกฎหมายจะส่งผลกระทบต่อสังคมและคนส่วนใหญ่ในประเทศ โดยเฉพาะผู้หญิงและเด็กที่ไม่เกี่ยวข้องหรือผู้ที่กำลังตกเป็นเหยื่อวงการค้าประเวณีอย่างร้ายแรง ไม่ได้ช่วยให้คนที่เป็นโสเภณีอยู่แล้วมีความเป็นอยู่ดีขึ้น แถมยังจะทำให้ปัญหาโสเภณีปัญหาการค้ามนุษย์และปัญหาสังคมด้านความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็กเลวร้ายลงไปอีก 


 


ภาพจาก - https://aztrauma.org/prostitution-cultural-misconceptions-and-the-harm-we-cause/


ข้อเท็จจริงคือปัจจุบันโสเภณีส่วนใหญ่ในธุรกิจค้ากาม (บางงานวิจัยระบุว่ามากถึง 90%) ไม่ได้อยากมาเป็นโสเภณีและมีประวัติเคยถูกล่วงละเมิดทางเพศตอนเด็ก ระหว่างเป็นโสเภณีก็มักต้องประสบกับความรุนแรงในด้านต่างๆ ทั้งการทำร้ายร่างกาย, ถูกข่มขืนหรือล่วงละเมิดทางเพศ, ติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์, ตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์,ซึมเศร้า, เป็น PTSD (บางงานวิจัยระบุว่าขณะประจำการทหารออสเตรเลียเป็น PTSD 5-12% แต่โสเภณีที่เป็น PTSD มีมากถึง 40-55%ในขณะที่คนปกติหญิง 8% ชาย 5%), และมีภาวะอยากฆ่าตัวตาย


"Survival Sex" หรือ "การมีเซ็กซ์เพื่อความอยู่รอด" เป็นแรงขับดันหลักของโสเภณีส่วนใหญ่ที่เข้ามาขายนอกเหนือจากเหยื่อที่ถูกหลอกถูกบังคับซื้อขายจากขบวนการค้ามนุษย์ คือการขายตัวเพื่อให้ได้ปัจจัยในการดำรงชีวิต


พูดง่ายๆ คือ "ถ้าไม่ขายก็อดตาย" 


การที่ลูกค้าเห็นโสเภณีส่วนใหญ่ยิ้มแย้มแจ่มใสนั่นอย่าเข้าใจผิดว่าพวกเธอดีใจที่ได้ขายตัวให้กับคุณ พวกเธอแค่แสร้งยิ้มเพราะหวังเงินจากคุณต่างหาก หากไม่มีเงินมาเกี่ยวข้องพวกเธอไม่อยากจะอยู่ในห้อง 2 ต่อ 2 กับคุณด้วยซ้ำ (แต่ก็มีลูกค้าจำนวนไม่น้อยที่จงใจซื้อเด็กหรือผู้หญิงที่เห็นได้ชัดว่าไม่เต็มใจ ทำท่าหวาดกลัว ร้องไห้ อ้อนวอนขอชีวิต มาเพื่อลงมือข่มขืนหรือทำร้ายร่างกายให้สะใจสนองอารมณ์ดิบของตน)


ข้างล่างเป็น link ส่วนหนึ่งของบทความที่บอกสภาพความเป็นจริงของโสเภณีส่วนใหญ่

https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3499847/

https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3508959/

https://www.prostitutionresearch.com/pdf/Prostitutionin9Countries.pdf

https://pcar.org/sites/default/files/pages-pdf/the_intersection_between_prostitution_and_sexual_violence.pdf

https://www.nytimes.com/1998/08/18/science/many-prostitutes-suffer-combat-disorder-study-finds.html

https://theconversation.com/a-soldier-and-a-sex-worker-walk-into-a-therapists-office-whos-more-likely-to-have-ptsd-71464


 


ภาพจาก - https://www.wcax.com/content/news/Vt-House-passes-bill-giving-new-protections-to-sex-workers-568052671.html


ผู้ที่จะได้ประโยชน์จากการทำให้ธุรกิจค้ากามถูกกฎหมายคือเหล่าแมงดา, เจ้าของซ่อง, นายทุนและอภิสิทธิ์ชน (ชายที่อยากซื้อและหญิงที่อยากขาย) เพราะมันช่วยเปิดทางให้พวกเขาได้ใช้อำนาจเงินซื้อขายร่างกายของผู้ด้อยโอกาสกว่าเหมือนผักปลาได้สะดวกขึ้น


ฉะนั้นหากอยากช่วยเหลือโสเภณีควรช่วยให้พวกเธอความเป็นอยู่ดีขึ้นด้วยวิธีอื่นไม่ใช่ทำให้กระบวนการค้ากามหรือโสเภณีถูกกฎหมาย


สิ่งที่ไทยเราควรจะทำคือการพัฒนาสังคม เศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น ปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ มีทางเลือกในการประกอบอาชีพมากพอให้หญิงหรือเด็กยากจนไม่ต้องขายตัวเพียงเพราะไม่มีจะกิน หรือช่วยโสเภณีให้มีความรู้และทักษะไปประกอบอาชีพอื่นได้โดยไม่ต้องขายตัวอีก ไม่ใช่มาเรียกร้องให้ผู้หญิงทุกคนมีสิทธิเป็นโสเภณี


ปกตอน 191


#delvento : http://www.comico.in.th/titles/130

ตอน 191 : http://www.comico.in.th/titles/130/chapters/199

ตอน 181 : ใช้ RC อ่านได้ : http://www.comico.in.th/titles/130/chapters/189

...

เพิ่งจะนึกได้ลืมอัพรูปแจ้งข่าวอาทิตย์นี้ 

วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

นิทานเรื่อง "หมาป่า 2 ตัว"


ภาพโดย Yuri_B

https://pixabay.com/images/id-2227541/


นิทานเรื่อง "หมาป่า 2 ตัว"


อินเดียนแดงเผ่าเชอโรคีเฒ่าคนหนึ่งสอนบทเรียนชีวิตแก่หลานชาย 


เขาเล่าให้หลานชายฟังว่า "ภายในตัวปู่มีหมาป่า 2 ตัวสู้กันอยู่ หมาป่าตัวหนึ่งเป็นหมาป่าชั่วร้าย มันคือความโกรธเกลียด อิจฉาริษยา เศร้าโศก เสียใจ ละโมบ ก้าวร้าว น่าสมเพช น่าละอาย ไม่พอใจ ต่ำต้อย หลอกลวง หยิ่งในศักดิ์ศรีจอมปลอม หลงว่าตัวเองสูงส่งกว่าคนอื่น และจองหอง"


เขาเล่าต่อ "ส่วนอีกตัวเป็นหมาป่าดี มันคือความสุข สันติ ความรัก ความหวัง ความสงบ ถ่อมตน เมตตา หวังดี เห็นใจ เอื้อเฟื้อ ความสัตย์จริง มีน้ำใจ และความศรัทธา ในตัวของหลานก็มีหมาป่า 2 ตัวนี้สู้กันอยู่และในตัวของทุกๆ คนก็ด้วย"


หลานคิดอยู่ชั่วครู่แล้วถามปู่ว่า "แล้วหมาป่าตัวไหนชนะครับ"


เชอโรคีเฒ่าคนนั้นตอบว่า "ตัวที่หลานให้อาหารมัน"


*****************************


ทุกวันนี้คนมากมายพยายามทำให้ตัวเองโด่งดังด้วยการจงใจสร้างเรื่องแย่ๆ เรียกร้องความสนใจให้คนเข้ามารุมด่า รุมแชร์ให้เพื่อนเข้ามาด่า รุมแชร์ให้คนวงกว้างเข้ามาด่าจนกลายเป็น "ยิ่งด่ายิ่งดัง" หรือ "ยิ่งฉาวยิ่งดัง"


ช่วงนี้มีหลายคนพยายามดังด้วยการสร้างสื่อที่มีเนื้อหาส่อเสียด หยาบโลน หรือเหยียดผู้หญิง ล่อให้คนที่ไม่ชอบเข้ามาด่า กลายเป็นยิ่งมีคนที่ไม่ชอบมาแชร์มารุมด่ามากเท่าไรก็ยิ่งช่วยโฆษณาให้คนพวกนี้ยิ่งดังมากขึ้นเท่านั้น


เคยมีคนส่งข้อความมาถามผู้เขียนร่วมว่า "คิดอย่างไร" ผู้เขียนร่วมก็คงตอบแบบเชอโรคีเฒ่าคนนั้นว่า "อย่าให้อาหารมัน"


เมื่อเจอ "หมาป่าชั่ว" ก็อย่าไปเลี้ยงเมื่อไม่มีคนเลี้ยงมันก็จะหิวตายไปเอง เลี้ยงแต่ "หมาป่าดี" ให้มันแข็งแรงอยู่รอด


เมื่อเจอคนคิดแย่ๆ โพสต์เรื่องแย่ๆ ไม่ว่าเรื่องอะไรอย่าไปช่วยเขากระจายความคิดแย่ๆ เอาเวลาที่เท่ากันนี้ไปสนับสนุนคนที่คิดดี ทำดี โพสต์เรื่องดีๆ และส่งเสริมคนดีๆ ให้มีชื่อเสียงดีกว่า เพื่อให้คนดีๆ มีกำลังใจและกล้าที่จะทำความดีกันเพิ่มขึ้น นั่นเป็นวิธีการตอบโต้คนที่คิดแย่ๆ ได้อย่างถูกจุดที่สุด


ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วว่า "อยากเลี้ยงหมาป่าตัวไหน"

วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ปกตอน 190

 


#delvento : http://www.comico.in.th/titles/130

ตอน 190 : http://www.comico.in.th/titles/130/chapters/198

ตอน 180 : ใช้ RC อ่านได้ : http://www.comico.in.th/titles/130/chapters/188

...

ช่วงนี้ทยอยลงบทความใน readawrite เกี่ยวกับประเด็น "ทำไมถึงต่อต้านโสเภณีถูกกฎหมาย" ตอนที่ 3 จะอธิบายเยอรมันโมเดล และตอนต่อๆ ไปจะเป็นข้อโต้แย้งความคิดเห็นต่างๆ 

วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

โสเภณีถูกกฎหมาย (3) Germany model

ขายตัวถูกกฎหมายใครๆ ก็เป็นโสเภณีได้ง่ายจัง (3)


Germany model - กรณีศึกษาจากเยอรมนีหนึ่งในประเทศที่โสเภณีถูกกฎหมาย แนวคิดแบบที่ผู้สนับสนุนในไทยต้องการ


ผู้สนับสนุนโสเภณีถูกกฎหมายในไทยหลายส่วนมีแนวคิดคล้ายกับเยอรมนี การอ่านกรณีศึกษาจากเยอรมนีจึงน่าจะช่วยให้ทำนายได้คร่าวๆ ว่าหากไทยเราผ่านกฎหมายจะเกิดอะไรขึ้น



บทความสรุปการบรรยาย

https://www.trauma-and-prostitution.eu/en/2016/11/02/the-german-model-is-producing-hell-on-earth/


การบรรยายหนึ่งในปี 2016 ที่แวนคูเวอร์ แคนาดาหัวข้อ "International Approaches to Prostitution: Sweden, Germany, Canada"  (การจัดการการค้าบริการทางเพศนานาชาติ : สวีเดน เยอรมนี แคนาดา)


ได้บรรยายถึงสภาพสังคมโดยรวมในเยอรมนีหลังการออกกฎหมายในช่วงปี 2002 ให้การค้าบริการทางเพศไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมายอีกต่อไป 


นักการเมืองเยอรมันช่วงนั้นมองว่า การค้าประเวณีเป็นอาชีพสุจริตที่ไม่ได้ผิดศีลธรรมและไม่ใช่ปัญหาแต่การเหยียดการค้าประเวณีและโสเภณีต่างหากที่ทำให้โสเภณีไม่ได้รับสิทธิ์ที่ควรได้ จึงเสนอให้เปลี่ยนคำเรียกโสเภณีเป็น "sex worker" (ผู้ประกอบอาชีพทางเพศ) และพยายามยกระดับให้โสเภณีมีภาพลักษณ์ที่ดีและเข้าถึงสวัสดิการรัฐได้เหมือนผู้ประกอบการหรือลูกจ้างอาชีพอื่นๆ แนวคิดและวิธีปฏิบัติเช่นนี้ เรียกว่า “German model”


เงื่อนไขของโสเภณีถูกกฎหมายในเยอรมัน เบื้องต้นมีดังนี้

- ผู้จะเป็นโสเภณีต้องอายุเกิน 18 ปี

- ต้องมีใบอนุญาต

- ต้องมีใบตรวจโรค (อายุ 18-21 ปี ต่อใบตรวจโรคทุก 6 เดือน, อายุมากกว่า 21 ปี ต่อใบตรวจโรคทุก 1 ปี)

- ต้องสวมอุปกรณ์ป้องกันโรค

- ต้องเสียภาษี

- ต้องทำประกันสุขภาพ

- หากขึ้นกับสถานประกอบการณ์ สถานประกอบการณ์ต้องจัดหาอุปกรณ์ให้ผู้ซื้อบริการ



ย่านโคมแดงในแฟรงค์เฟิร์ต

https://www.trauma-and-prostitution.eu/en/wp-content/uploads/sites/3/2016/11/Folie10-624x468.jpg


15 ปีหลังจากผ่านกฎหมายในเยอรมนี จำนวนเม็ดเงิน ซ่อง ผู้ค้า ผู้ซื้อ และความต้องการ (demand) ในธุรกิจนี้เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 30% การค้ากามคือธุรกิจที่ทำเงินมหาศาล ในเมื่อมันถูกกฎหมายไม่แปลกที่แม้แต่คนที่ไม่เคยจับธุรกิจนี้ก็อยากโดดเข้ามาขอแบ่งชิ้นเค้ก 


ในเยอรมนีมีห้างร้านจำนวนไม่น้อยผันตัวเองจากธุรกิจทั่วไปเปลี่ยนเป็นซ่อง เช่น ห้องเสื้อ อู่ซ่อมรถ มีการโฆษณาซ่อง จัดเซ็กซ์ทัวร์ มีแมวมองจากซ่องออกเดินทาบทามผู้หญิงตามท้องถนนให้เข้ามาขายตัวในซ่องราวกับเชื้อชวนเพื่อซื้อขายสินค้าทั่วไป นักเรียนนักศึกษานัดกันมาเที่ยวซ่องฉลองจบการศึกษาหรือมีจัดไกด์นำทัวร์ซ่องสำหรับนักศึกษาใหม่กันเป็นเรื่องปกติ 



อู่ซ่อมรถที่ผันตัวเป็นซ่อง

https://www.trauma-and-prostitution.eu/en/wp-content/uploads/sites/3/2016/11/Folie08.jpg


ความที่โสเภณีมีเยอะ หาง่าย สะดวก เร็ว แมงดาและซ่องก็ต้องหาวิธีต่างๆ ในการดึงดูดลูกค้าด้วยการจัดโปรโมชั่นต่างๆ เช่น บุฟเฟ่ต์จ่ายครั้งเดียวดื่มเบียร์กินไส้กรอกและจะใช้ผู้หญิงกี่ครั้งก็ได้, จ่ายเหมาแล้วยกเอาผู้ชายกี่คนมารุมโสเภณีคนเดียวกันก็ได้ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ล้วนล้ำเส้นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของโสเภณีให้ถูกกระทำเหมือนวัตถุ ผู้ซื้อบริการเริ่มมีพฤติกรรมรุนแรงต่อโสเภณีมากขึ้น ทั้งยังหยาบคายขึ้น วิตถารขึ้นเพราะพวกเขาจะคิดแค่ว่า "จ่ายเงินแล้วต้องใช้งานให้คุ้ม" หรือ "มันเป็นหน้าที่ของโสเภณีอยู่แล้ว" และเลิกคำนึงถึงความรู้สึกของโสเภณีหรือมองว่าโสเภณีเป็นมนุษย์ที่มีจิตใจ


งานโสเภณีจึงถูกจัดอยู่ในงานอันตรายเพราะต้องทำงานอยู่ในห้อง 2 ต่อ 2 กับชายที่มองเห็นโสเภณีเป็นแค่เครื่องระบายทางเพศ, ไม่ให้เกียรติ, พร้อมใช้กำลังเมื่อถูกขัดใจ และเสี่ยงที่จะต้องสัมผัสสารคัดหลั่งต่างๆ ซึ่งอาจทำให้ติดโรคหรือตั้งครรภ์



ภาพโดย SasinTipchai

https://pixabay.com/images/id-1822413/


เรื่องการถูกลูกค้าบังคับให้ร่วมเพศทั้งที่ไม่ใส่ถุงยาง, เบี้ยวไม่จ่ายค่าตัวหลังเสร็จกิจ, ละเมิดข้อปฏิบัติด้านความปลอดภัยอื่นๆ ที่ทำให้โสเภณีต้องเสี่ยงต่อการติดโรคหรือตั้งครรภ์, หรือการถูกลูกค้าบังคับให้เล่นวิตถารเกิดขึ้นจนเป็นเรื่องปกติและไม่มีอะไรเป็นหลักประกันเลยว่าถ้าโสเภณีปฏิเสธการให้บริการจะไม่ถูกลูกค้าข่มขืนทำร้ายร่างกายหรือถูกฆ่าตาย


เมื่อการร่วมเพศกับโสเภณีทุกครั้งมีแต่ขั้นตอนเดิมๆ ผู้ซื้อก็เกิดความเบื่อหน่ายจึงเริ่มมีผู้แชร์ "เมนู" ในหมู่นักเที่ยวบนอินเทอร์เน็ตเพื่อเป็นไอเดียว่าตอนซื้อโสเภณีจะเรียกบริการอะไรจากโสเภณีได้บ้าง เช่น เอาทั้งข้อมือยัดเข้าไปในอวัยวะเพศหรือทวารหนัก, ให้เลียทวารหนักผู้ซื้อ, เล่นละเลงอสุจิกับอุจจาระผู้ซื้อ, ถ่ายอุจจาระบนตัวโสเภณี



ตัวอย่างบาง "เมนู" ที่เป็นไอเดียให้ผู้ซื้อเรียกร้องบริการจากผู้ขาย


ในเมื่อความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับโสเภณีถูกมองเป็นเรื่องปกติและขนาดโสเภณีที่สังกัดซ่องมีแมงดาคุมยังถูกลูกค้าทำร้ายหรือเบี้ยวค่าตัวเป็นว่าเล่น โสเภณีที่รับงานเดี่ยวๆ ที่ไม่มีแมงดาคุมยิ่งตกเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการถูกใช้ความรุนแรงหรือถูกฆาตกรรม มีโสเภณีจำนวนน้อยมากที่กล้าแจ้งความเอาผิดผู้ที่ทำร้ายหรือข่มขืนตนเพราะถึงแจ้งความไปเจ้าหน้าที่ก็ไม่ค่อยให้ความสนใจเพราะมักมองว่า "ก็แค่ลูกค้าทะเลาะกับกะหรี่"



ตู้โชว์เสื้อที่กลายเป็นตู้โชว์ "สินค้า"

https://www.trauma-and-prostitution.eu/en/wp-content/uploads/sites/3/2016/11/Folie11-624x468.jpg



การที่การค้าประเวณีเป็นเรื่องถูกกฎหมายและโสเภณีเป็นอาชีพตามกฎหมาย แมงดาหรือเจ้าของซ่องก็จะถูกยกฐานะขึ้นมาเป็น "นายจ้าง"หรือ "เจ้าของร้าน" ตามกฎหมายเช่นกัน ทำให้สามารถบังคับใช้กฎหมายแรงงานกับโสเภณีในสังกัดได้แบบนายจ้างลูกจ้างทั่วไป 


หากมองอย่างโลกสวยก็จะคิดว่า "โสเภณีน่าจะได้รับการคุ้มครองจากกฎหมายแรงงานลดการเอาเปรียบจากนายจ้าง"


แต่ในความเป็นจริงผู้ใช้แรงงานส่วนใหญ่ก็ยังรู้กฎหมายไม่เท่านายจ้างหรือต่อให้รู้ก็ยังถูกเอาเปรียบจากช่องโหว่ทางกฎหมายแล้วนับประสาอะไรกับโสเภณีที่ส่วนใหญ่เรียนน้อยและขาดความรู้จะไปประกอบอาชีพอื่นจนต้องมาขายตัว 


หญิงเยอรมันส่วนใหญ่เมื่อเจอสภาพแบบที่เป็นอยู่ก็เริ่มไม่อยากขายตัวกันแล้ว 



โฆษณาซ่องในเบอร์ลิน

https://www.trauma-and-prostitution.eu/en/wp-content/uploads/sites/3/2016/11/Folie06-300x225.jpg



ผู้หญิงต่างด้าวที่ไหลจากทางตะวันออก เช่น โรมาเนียบุลแกเรีย จึงเข้ามาแทนที่ในตลาดค้ากามโดยมีความยากจนเป็นแรงขับดัน 


หญิงเหล่านี้อายุน้อยและพูดภาษาท้องถิ่นไม่ได้จึงถูก "นายจ้าง" ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือเอาเปรียบและส่วนใหญ่ถูกลูกค้าระบายอารมณ์วิปริตใส่ตั้งแต่ขายตัวครั้งแรกจนต้องพึ่งยาเพื่อให้ยังทนขายตัวไหว หากวันใดรับแขกไม่ได้ตามเป้าหรือลาหยุดก็จะถูกหักเงินหรือถูกลดสวัสดิการโดยอ้างกฎหมายแต่เมื่อไม่สบายหรือหยุดกลับเบิกอะไรจากนายจ้างแทบไม่ได้ หญิงเหล่านี้แทบจะไม่มีเลยที่สามารถเก็บเงินตั้งตัวแล้วออกจากวงจรค้ากาม พวกเธอจิตใจแหลกสลาย สูญเสียตัวตน มองไม่เห็นอนาคตและจะขายตัวแลกเงินส่งให้คนที่บ้านเกิดไปเรื่อยๆ จนกว่าร่างกายจะทนรับไม่ไหวในสักวัน


สุขภาวะของโสเภณีในเยอรมันโดยรวมเข้าขั้นน่าเป็นห่วงมาก 


โสเภณีส่วนใหญ่ร่างกายทรุดโทรม, แก่กว่าวัย, มีอาการเจ็บในช่องท้องเรื้อรัง, กระเพาะอักเสบ, ติดเชื้อจากความเป็นอยู่ที่ไม่ค่อยดี, เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์, เจ็บป่วยทางใจจนต้องพึ่งเหล้าและยา, มีอาการซึมเศร้าจากการขายตัว 



รูปจาก

https://nordicmodelnow.org/tag/germany/


ยิ่งปัจจุบัน (ปี 2016 ที่บรรยาย) ลูกค้านิยมใช้บริการหญิงท้องมากขึ้น (ผู้ชายบางกลุ่มมีความเชื่อว่าหญิงท้องช่องคลอดจะฟิตหรือไม่ต้องสวมถุงยางตอนร่วมเพศเพราะหลั่งในได้โดยไม่ท้องอีก –  ผู้เขียน) ทำให้หญิงท้อง 1 คนต้องรับแขกวันละ 15-40 คนจนกว่าจะคลอดและบ่อยครั้งที่จะทิ้งเด็กไว้แล้วกลับไปทำงานให้เร็วที่สุดหลังคลอด (เร็วสุด 3 วันหลังคลอด) ซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพทั้งแม่และเด็ก



โฆษณาอีเวนท์ปาร์ตี้เซ็กซ์หมู่หญิงวัย 19 ท้อง 6 เดือน จ่ายแค่ 35 ยูโรก็เข้าร่วมได้

https://www.trauma-and-prostitution.eu/en/wp-content/uploads/sites/3/2016/11/Folie16-624x468.jpg



เมื่อการค้าประเวณีถูกกฎหมายซ่องก็จะกลายเป็นสถานประกอบการถูกกฎหมายเป็นช่องทางให้ "นายจ้าง" สามารถลักลอบนำหญิงจากประเทศยากจนเข้ามาขายได้ง่ายขึ้น 


จากเดิมเมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่าที่ใดมีการค้ามนุษย์ก็จะสามารถบุกเข้าไปทลายซ่องได้ทันที แต่ปัจจุบันแม้เจ้าหน้าที่จะได้เบาะแสว่าซ่องนั้นๆ ลักลอบเอาผู้หญิงและเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะหรือไม่ได้ขึ้นทะเบียนมาบังคับให้ขายก็ไม่สามารถทำอะไรได้ถ้าไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดหรือหมายศาลอนุญาตให้เข้าไปตรวจค้น 


จึงไม่แปลกว่าทำไมประเทศที่อนุญาตให้การค้าประเวณีถูกกฎหมายจึงมีการค้ามนุษย์แอบแฝงแพร่กระจายยิ่งกว่าเดิม 



โปรโมชั่นสาวหน้าใหม่เริ่มต้นที่ 40 ยูโร

https://www.trauma-and-prostitution.eu/en/wp-content/uploads/sites/3/2016/11/Folie15-624x468.jpg



และแม้จะมีการร่างกฎหมายเพื่อป้องกันการค้ามนุษย์ให้รัดกุมขึ้นเพียงใด"นายจ้าง"ก็จะมีวิธีง่ายๆ ในการหลบเลี่ยง เช่น ขังหญิงต่างด้าวที่ได้มาให้อยู่แต่ในห้องไม่เห็นเดือนเห็นตะวันจากนั้นก็จัดหาลูกค้ามาหลับนอนกับหญิงต่างด้าวในห้องนั้น แน่นอนว่าเมื่อเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบโสเภณีต่างด้าวเหล่านี้จะกลายสภาพเป็น "ผู้เช่าห้องพัก" ที่เอาลูกค้ามานอนที่ห้องเอง ส่วน "นายจ้าง" จะกลายเป็นแค่ "ผู้ให้เช่าห้อง" ที่ไม่มีส่วนรู้เห็นกับการที่หญิงต่างด้าวเอาคนมานอนด้วย 


หญิงเหล่านี้มักกลัวไม่กล้าพูดความจริงเพราะถูก"นายจ้าง"ใช้ความไม่รู้เอากฎหมายข่มขู่ไว้ก่อน เช่น ถ้าโดนจับจะถูกยึดพาสปอร์ตหรือจะโดนส่งกลับประเทศทำให้เสียค่านายหน้าที่ส่งตัวข้ามประเทศไปฟรีๆ ทำให้ในที่สุดก็ไม่กล้าให้ข้อมูลที่สามารถเอาผิด "นายจ้าง"ได้



คลิปที่ออกมาอธิบายปัญหาเมื่อรัฐบาลหลายประเทศ (รวมทั้งเยอรมัน) ประกาศปิดเมืองเพื่อป้องกันการระบาดของ COVID-19 แต่โสเภณีจำนวนมากยังเข้าไม่ถึงการช่วยเหลือของรัฐ องค์กรสตรีต่างๆ จึงต้องหาทางช่วยเหลือกันเอง

https://globalnews.ca/news/6883831/sex-workers-coronavirus/


ปัจจุบัน (2020) Covid-19 ระบาดทำให้ในเดือนมีนาคมสถานบริการทางเพศในเยอรมนีถูกสั่งปิด 


โสเภณีขาดรายได้จนต้องลอบรับงานเองก่อนที่ทางการจะอนุญาตให้กลับมาเปิดอีกครั้งทั้งที่เสี่ยงต่อการติดโรคและผิดกฎหมาย (บทความนี้เขียนช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2563 หลังจากนี้ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง)


เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าแม้เยอรมนีจะเป็นประเทศที่โสเภณีถูกกฎหมายมานานแล้วแต่สวัสดิการและคุณภาพชีวิตของโสเภณีก็ไม่ได้ดีขึ้น เพราะในภาวะโรคระบาดนายจ้างหรือรัฐกลับไม่มีการจ่ายเงินชดเชยที่ไม่ได้ประกอบอาชีพและตัวโสเภณีเองก็ไม่มีเงินสำรองมากพอที่จะช่วยให้อยู่รอดโดยไม่ต้องออกไปทำงานในช่วงนั้น



https://www.dw.com/en/coronavirus-sex-workers-in-germany-get-back-to-their-jobs-after-ban-is-lifted/a-54896365


ที่อ่านผ่านตาไปคือสภาพของเยอรมนีโดยรวมหลังผ่านร่างกฎหมายให้การค้าบริการทางเพศไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมายอีกต่อไป ซึ่งหากไทยตามรอยเดียวกันสิ่งที่เกิดในไทยก็จะคล้ายกันหรืออาจรุนแรงกว่า เพราะขนาดยังไม่ถูกกฎหมายไทยเรายังได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการค้ามนุษย์ หญิงไทยส่วนใหญ่มีภาพพจน์ในสายตาชาวต่างชาติว่าเป็นโสเภณีและมีหญิงและเด็กยากจนจากประเทศเพื่อนบ้านทั้งที่เต็มใจและถูกล่อลวงหรือบังคับจากขบวนการค้ามนุษย์เข้ามาขายบริการมากมายในไทย

โสเภณีถูกกฎหมาย (2) เหตุผลฝั่งสนับสนุน

ขายตัวถูกกฎหมายใครๆ ก็เป็นโสเภณีได้ง่ายจัง (2)


เหตุผลที่คนบางส่วนสนับสนุนให้มีการค้าบริการทางเพศถูกกฎหมาย


แนวคิดเรื่อง "ทำให้การค้าบริการทางเพศเป็นเรื่องถูกกฎหมาย" เป็นเรื่องที่มีการพูดคุยกันในสังคมไทยมาระยะหนึ่งแล้วซึ่งแน่นอนว่าหัวข้อแบบนี้เป็นหัวข้อละเอียดอ่อนที่มีทั้งผู้สนับสนุนและคัดค้าน


ผู้เขียนเขียนบทความนี้ขึ้นมาเพื่อแสดงจุดยืนของผู้เขียนว่า "ไม่เห็นด้วย"


เพราะสำหรับผู้เขียนมองว่า "การทำให้การค้ากามถูกกฎหมาย = ผู้หญิงทุกคนคือโสเภณีแม้จะไม่เต็มใจก็ตาม" เพราะผลสุดท้ายผู้หญิงและเด็กที่ไม่อยากขายก็จะสุ่มเสี่ยงต่อการถูกนำมาขายหรือหาประโยชน์ทางเพศไม่ทางใดก็ทางหนึ่งอยู่ดี การทำให้ถูกกฎหมายคือการเปิดช่องให้มิจฉาชีพหรือผู้ชายที่ไม่ดีหาประโยชน์จากผู้หญิงและเด็กได้ง่ายขึ้น


หัวข้อนี้จะเป็นการสรุปความคิดเห็นของผู้คนจากที่ต่างๆ ซึ่งผู้อ่านหลายคนน่าจะเคยพบความคิดเห็นที่ใกล้เคียงกันมาแล้ว 


 


ความคิดเห็นจากแฟนเพจเฟซบุ๊กของสื่อแห่งหนึ่ง


ผู้สนับสนุนจากที่ต่างๆ แจกแจงประโยชน์ของการทำให้โสเภณีถูกกฎหมายเอาไว้ดังนี้


1. การขายตัวเป็นสิทธิเสรีภาพของบุคคลนั้นๆ รัฐไม่ควรปิดกั้นการใช้สิทธิของประชาชน

2. โสเภณีจะได้ทำการค้าได้อย่างเปิดเผยเหมือนอาชีพอื่น มีศักดิ์ศรี มีเกียรติ ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ ให้คนในสังคมดูถูก

3. โสเภณีจะได้สามารถเข้าถึงสวัสดิการต่างๆ ของรัฐ เช่น ประกันสังคมได้เหมือนคนอาชีพอื่น, มีกฎหมายแรงงานคุ้มครองไม่ถูกนายจ้างกดขี่เอาเปรียบ

4. เมื่อการขายบริการทางเพศถูกกฎหมายก็จะมีหน่วยงานรัฐข้ามาช่วยคุ้มครองผู้บริโภคเหมือนการซื้อสินค้าและบริการประเภทอื่นที่เมื่อลูกค้าไม่ได้รับความพึงพอใจก็มีช่องทางให้ร้องเรียนและเรียกเงินค่าบริการคืนได้มีหน่วยงานรัฐเข้ามาควบคุมคุณภาพโสเภณี จัดให้มีการตรวจโรคอย่างสม่ำเสมอช่วยให้ผู้ซื้อมั่นใจได้ว่าสินค้าสะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน

5. รัฐจะได้เก็บภาษีจากโสเภณีอย่างถูกต้องโสเภณีไม่ต้องถูกเจ้าหน้าที่รัฐเอารัดเอาเปรียบและไม่ต้องถูกรีดไถอีกต่อไป

6. โสเภณีเป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยลดความเครียดของผู้ชายและลดการก่ออาชญากรรมในสังคมมาแต่โบราณ หากไม่มีโสเภณีผู้ชายในสังคมจะข่มขืนผู้หญิงและเด็กมากกว่านี้

7. การยอมรับให้โสเภณีถูกกฎหมายเป็นการยอมรับความจริงและไม่ดัดจริตเรื่องเพศ

8. สังคมไทยจะลดอคติลงและมองการซื้อบริการทางเพศเป็นเรื่องปกติเหมือนการไปนวดคลายเครียดไม่ใช่การนอกใจ ผู้ชายไม่ต้องแอบเป็น "พ่อบ้านใจกล้า" เพราะกลัวการถูกตราหน้าว่าสำส่อน ผู้ชายจะสามารถคุยกับภรรยา แฟนสาว ลูก เพื่อนร่วมงานหรือคนทั่วไปเรื่องการซื้อบริการทางเพศได้อย่างเปิดเผยหรือเช็คอินที่จุดขายบริการทางเพศในแอพไทยชนะได้โดยไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ชายกล้าซื้อบริการโดยไม่รู้ต้องสึกผิดอีกต่อไป

9. การขายบริการทางเพศอย่างถูกกฎหมายจะช่วยจำกัดวงการค้ากามและเป็นการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ที่ตรงจุด เพราะในเมื่อมีของถูกกฎหมายให้เลือกซื้อแล้วผู้ซื้อก็ไม่จำเป็นต้องซื้อของเถื่อนอีก ผู้ที่จัดหาของเถื่อนก็จะขายของเถื่อนไม่ได้

10. หากมีขายบริการทางเพศอย่างถูกกฎหมายและเป็นที่ยอมรับในสังคมมากขึ้นผู้หญิงส่วนใหญ่ก็จะกล้าเข้ามาขายบริการทางเพศมากขึ้น ในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ผู้หญิงจะได้มีอาชีพที่ 2 หารายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ

11. เมื่อมีจำนวนโสเภณีในท้องตลาดมากขึ้นก็จะเกิดการแข่งขันทางด้านราคาและการบริการ ธุรกิจค้ากามจะได้มีการพัฒนารูปแบบให้แปลกใหม่และทันสมัยยิ่งขึ้น

12. ธุรกิจค้ากามเป็นแม่เหล็กชั้นดีที่จะดึงเม็ดเงินจำนวนมากไหลเข้าประเทศ การที่ไทยมีโสเภณีถูกกฎหมายจะเป็นเครื่องแสดงว่าบ้านเมืองเราเป็นประเทศที่เจริญแล้วทัดเทียมอารยะประเทศ หากบริหารจัดการดีๆ มีรัฐคอยสนับสนุนสักวันหนึ่งวงการโสเภณีไทยอาจขึ้นชื่อจนเป็นฮับท่องเที่ยวทางเพศแบบอัมสเตอร์ดัม


ทั้งหมดนี้คือความคิดเห็นส่วนหนึ่งจากผู้คนทั้งในโซเชียลและชีวิตจริง ที่จริงยังมีรายละเอียดปลีกย่อยมากกว่านี้แต่ผู้เขียนสรุปมาแต่ประเด็นใหญ่ๆ ให้ผู้อ่านได้ทราบความคิดเห็นและจุดยืนของผู้สนับสนุนพอสังเขป


จากความคิดเห็นเหล่านี้จะสังเกตได้ว่าผู้สนับสนุนส่วนใหญ่มองไปที่การเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ซื้อและผู้ที่เต็มใจขายมากกว่าจะยกระดับคุณภาพชีวิต, ช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในวงจรให้เลิกขายบริการทางเพศและส่งเสริมมีความรู้หรือทักษะอื่นๆ เพื่อไปประกอบอาชีพอื่น


พวกเขาให้ความสำคัญกับคุณภาพโสเภณี, ราคาค่าบริการ, ความปลอดภัยต่อโรคติดต่อ, ความสะดวกของผู้ซื้อกับผู้ขาย มากกว่าจะคิดถึงผู้หญิงและเด็กที่ด้อยโอกาสที่ถูกขบวนการค้ามนุษย์ซื้อขายเข้ามาอยู่ในวงจรค้ากาม


โสเภณีถูกกฎหมาย (1) บทนำ

ขายตัวถูกกฎหมายใครๆ ก็เป็นโสเภณีได้ง่ายจัง (1)


บทนำ


เนื่องจากประเด็น "การทำให้การค้าบริการทางเพศเป็นเรื่องถูกกฎหมายในประเทศไทย" ถูกยกขึ้นมาพูดถึงกันบ่อยขึ้นช่วงนี้ แถมสื่อหลายแห่งมักจะนำเสนอแต่ในแง่ดีและชูประเด็นสิทธิเสรีภาพของผู้หญิงเพื่อชักจูงให้คนส่วนใหญ่เห็นด้วย แต่เท่าที่เห็นยังไม่มีสื่อไหนชี้ผลเสียจากการเปิดให้ขายบริการทางเพศถูกกฎหมายอย่างเป็นกิจจะลักษณะเลย


ผู้เขียนจึงรวบรวมข้อมูลจาก ข่าว งานวิจัย บทความ หนังสือสารคดี ผนวกกับความคิดเห็นและประสบการณ์ที่มีผู้บอกเล่าทางช่องทางต่างๆ นำมาวิเคราะห์ กลั่นกรองและเรียบเรียงเป็นบทความนี้ ซึ่งความรู้ของผู้เขียน ณ ขณะที่เขียนอาจไม่สามารถเรียบเรียงออกมาได้ครบถ้วนและข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคตโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน


และอย่างที่ผู้เขียนเคยบอกเสมอว่า “ผู้อ่านไม่จำเป็นต้องเชื่อทุกสิ่งในที่ผู้เขียนเขียน” และผู้เขียนจะยินดีมากหากผู้อ่านนำคีย์เวิร์ดไปค้นข้อมูลจากหลายๆ ที่อ่านเพิ่มเติมแล้วหาข้อสรุปด้วยตัวเองเพราะมันเป็นวิธีการเรียนรู้ที่ดีที่สุด


 


ภาพโดย Gerd Altmann

https://pixabay.com/images/id-114441/


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับการขายบริการทางเพศมีเนื้อหาและประเด็นค่อนข้างเยอะ ผู้เขียนจะแบ่งทยอยลงเป็นส่วนๆ ดังนี้

1) เหตุผลที่คนบางส่วนสนับสนุนให้มีการค้าบริการทางเพศถูกกฎหมาย

2) Germany model – กรณีศึกษาจากเยอรมนีหนึ่งในประเทศที่โสเภณีถูกกฎหมาย แนวคิดแบบที่ผู้สนับสนุนในไทยต้องการ

3) ข้อโต้แย้งประเด็น “สิทธิเสรีภาพในขายตัวควรเป็นของผู้หญิงทุกคน”

4) ข้อโต้แย้งประเด็น “โสเภณีเป็นอาชีพมีเกียรติมีศักดิ์ศรีและสมควรได้รับการยกย่องเหมือนอาชีพอื่นๆ”

5) ข้อโต้แย้งประเด็น “เมื่อถูกกฎหมายโสเภณีจะได้รับสวัสดิการ เข้าถึงประกันสังคมและมีกฎหมายแรงงานคุ้มครอง”

6) ข้อโต้แย้งประเด็น “เมื่อถูกกฎหมายหน่วยงานรัฐจะเข้ามาช่วยยกระดับมาตรฐานการโสเภณีกับวงการค้ากาม”

7) ข้อโต้แย้งประเด็น “เมื่อถูกกฎหมายรัฐสามารถเก็บภาษีอาชีพโสเภณีได้”

8) ข้อโต้แย้งประเด็น “โสเภณีเป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยลดความเครียดให้ผู้ชายในสังคม”

9) ข้อโต้แย้งประเด็น “การค้ากามถูกกฎหมายไม่มีผลต่อสถาบันครอบครัว”

10) ข้อโต้แย้งประเด็น “การค้ากามถูกกฎหมายไม่มีผลต่อค่านิยม บรรทัดฐาน ศีลธรรม จรรยา”

11) ข้อโต้แย้งประเด็น “โสเภณีถูกกฎหมายแล้วใครอยากขายตัวก็ขายไป ใครไม่อยากขายก็ไม่ต้องขายไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกัน”

12) ข้อโต้แย้งประเด็น “การค้ากามถูกกฎหมายจะช่วยจำกัดวงการค้ามนุษย์”

13) ข้อโต้แย้งประเด็น “โสเภณีถูกกฎหมายเป็นเครื่องแสดงถึงความเป็นสังคมอารยะ”

14) ภาคผนวก - ธุรกิจค้ากามถูกกฎหมายกับการเหยียดผู้หญิงและการใช้ความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็ก

15) ภาคผนวก - การค้ากามกับการค้าอวัยวะ, การขายเลือด, การรับจ้างอุ้มบุญ

16) ภาคผนวก - ทำไมไทยเพิ่งมีกฎหมายห้ามให้ค้าประเวณีเมื่อปี พ.ศ. 2539 ทั้งที่โสเภณีมีมาแต่สมัยโบราณแล้ว

17) Nordic model – แนวทางในการช่วยเหลือโสเภณีอย่างเป็นรูปธรรม (เน้นเอาผิดผู้ซื้อไม่ใช่จับกุมผู้ขาย)



ภาพโดย Gerd Altmann

https://pixabay.com/images/id-225406/


ก่อนจะเข้าสู่บทความผู้เขียนขอนิยามคำว่า "โสเภณี" และ “ผู้ซื้อ” ที่จะกล่าวถึงในบทความนี้


“โสเภณี” มีความหมายตามพจนานุกรมคือ “หญิงที่หาเลี้ยงชีพด้วยการค้าประเวณี”


“โสเภณี” ที่จะกล่าวถึงในบทความนี้คือโสเภณีที่เพศกำเนิดเป็นหญิงและ “ผู้ซื้อ” ที่เป็นเพศชายเป็นหลัก


ความจริงนอกจากโสเภณีที่เป็นเพศหญิงแล้วยังมีผู้ชายและผู้หญิงข้ามเพศที่อยู่ในธุรกิจค้ากามและมี “ผู้ซื้อ” ที่เป็นเพศหญิงด้วยแต่มีสัดส่วนที่น้อยกว่ามากและไม่มีกระบวนการนำคนเข้าสู่วงจรอย่างเป็นระบบเท่าโสเภณีหญิง (คนมักเรียกโสเภณีชายว่า “ผู้ชายขายน้ำ” หรือ “ผู้ชายป้ายเหลือง”) โสเภณีชายมีรายละเอียดของปัญหาที่แตกต่างออกไปผู้เขียนจึงขอละกรณีของโสเภณีที่มีเพศกำเนิดเป็นเพศชายออกไปก่อน


ในขณะที่เด็กและผู้หญิงจำนวนมากถูกบังคับให้ขายตัว, ถูกค้ามนุษย์ แต่กลับมีผู้หญิงกลุ่มหนึ่งออกมาเรียกร้องต้องการขายตัวถูกกฎหมาย ซ้ำผู้หญิงเหล่านั้นยังอายุน้อยลงเรื่อยๆ บางคนยังใส่เครื่องแบบมัธยมตัดผมสั้นแต่โพสต์ข้อความเสนอราคาตนเองในอินเทอร์เน็ต


โสเภณีหรือผู้หญิงที่เข้ามาขายบริการทางเพศสามารถจำแนกอย่างคร่าวๆ เป็น 2 ประเภทได้แก่


1. กลุ่มที่เต็มใจ – โสเภณีกลุ่มนี้คือคนที่ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินมากขนาดอับจนหนทางจนต้องมาเป็นโสเภณี มักมีแนวคิดแบบเสรีนิยมว่าร่างกายของตน ตนจะทำอย่างไรก็ได้รวมกระทั่งขายหรือให้ผู้อื่นเช่า, ต้องการใช้ร่างกายแลกเงินมาปรนเปรอความฟุ้งเฟ้อ, แลกชื่อเสียง, ผูกมัดคนมีเงินเพื่อให้เขายอมรับเลี้ยงดู, มีความต้องการทางเพศมากกว่าผู้หญิงปกติหรือชอบมีเพศสัมพันธ์กับคนมากหน้าหลายตา, ประชดครอบครัวและสังคม


โสเภณีกลุ่มแรกนี้แม้จะมีทางเลือกให้ประกอบอาชีพอื่นแต่มักจะยืนยันที่จะขายตัวต่อไป


2. กลุ่มที่ไม่เต็มใจ – โสเภณีกลุ่มนี้คือคนที่ไม่อยากขายตัวแต่ถูกปัจจัยรอบข้างบีบให้ต้องมาอยู่ในวงจรนี้ ส่วนใหญ่ถูกหลอกหรือถูกบังคับจากขบวนการค้ามนุษย์ ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นคนยากจน, คนต่างด้าว, เด็กหญิงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ บ้างก็เป็นผู้มีความจำเป็นต้องใช้เงินด้วยเหตุผลที่น่าเห็นใจ, ไม่มีทางออกอื่นในชีวิตขนาดที่ถ้าไม่ขายตัวก็อดตาย (survival sex – มีเซ็กซ์เพื่อความอยู่รอด) 


โสเภณีกลุ่มนี้หากมีทางเลือกให้ประกอบอาชีพอื่นซึ่งแม้จะได้เงินน้อยกว่าก็พร้อมจะเลิกขายตัวทันที


โสเภณีกลุ่มที่สนับสนุนให้มีการขายบริการทางเพศอย่างถูกกฎหมายมักเป็นกลุ่มแรกเพราะคิดว่าตนจะได้ประโยชน์หากสามารถค้าบริการได้อย่างเสรี โสเภณีกลุ่มแรกนับเป็น "ยอดภูเขาน้ำแข็ง" ของโสเภณีทั้งหมดที่มีจำนวนมากมายมหาศาลในขณะที่กลุ่มที่ 2 ซึ่งเป็นโสเภณีส่วนใหญ่ต่อให้มีการผ่านกฎหมายรับรองการค้ากามก็แทบจะไม่ได้ช่วยให้ชีวิตของพวกเธอดีขึ้นเลย


วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ปกตอน 189

 


#delvento : http://www.comico.in.th/titles/130

ตอน 189 : http://www.comico.in.th/titles/130/chapters/197

ตอน 179 : ใช้ RC อ่านได้ : http://www.comico.in.th/titles/130/chapters/187

...

ช่วงนี้แอดมินไม่สะดวกเฝ้าเพจนะคะ ข้อความต่างๆ ขอเก็บไปตอบวันหลังนะคะ

ตอนนี้เข้าช่วงเปลี่ยนเน็ตของแอดมิน หลังจากติดต่อไปตามเจ้าใหญ่ๆ ได้คำตอบคือคอนโดฯ ใช้ Fiber ไม่ได้ ได้แค่ ADSL, VDSL เลยทำใจ คอตกเพราะต้องจ่ายเงินค่า ADSL เท่ากับราคา Fiber แต่ได้ความเร็วน้อยกว่า 3-4 เท่า พอปรึกษานิติฯ เขาแนะนำเจ้าเล็กที่ไม่รู้จักมาให้ ตอนแรกลังเล แต่เอาล่ะติดต่อดูฟางเส้นสุดท้ายแล้ว แล้วก็ได้ Fiber สำหรับคอนโดฯ โดยเฉพาะมา ในราคาที่ถูกลงได้ความเร็วมากกว่าเดิม 4 เท่า

สืบไปมาเจ้านี้รับเดินสาย Fiber คอนโดฯ แบรนด์หลักๆ ทั้งนั้น ก็เลยทำให้รู้ว่า ที่เน็ตเจ้าดังๆ ไม่ยอมมาเปลี่ยน Fiber ให้คอนโดฯ เพราะลงทุนไม่คุ้ม คนส่วนใหญ่ไปใช้เจ้าเล็กที่ราคาถูกกว่ากันหมดแล้ว เจ้าดังๆ เลยเลี่ยงไปทำตลาด Fiber บ้านกันหมด

ทำให้คิดว่าองค์กรขนาดใหญ่ๆ ที่ขยับตัวช้า ก็ไม่ทันบริษัทเล็กๆ ที่กล้าลุยมากกว่า

วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ปกตอน 188


#delvento : http://www.comico.in.th/titles/130

ตอน 188 : http://www.comico.in.th/titles/130/chapters/196

ตอน 178 : ใช้ RC อ่านได้ : http://www.comico.in.th/titles/130/chapters/186

...

PM 2.5 กลับมาอีกแล้ว นอกจากต้องเตรียมหน้ากากรับโควิด19 เตรียมฟิลเตอร์กรอง PM 2.5 ด้วยนะ กรุงเทพฯ จะเจอไปจนกว่าจะถึงกุมภาพันธ์ หลังจากนั้นจะเป็นภาคเหนือเชียงใหม่ เตรียมตัวรับมืออย่าประมาทนะ

วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2563

ปกตอน 187

 


#delvento : http://www.comico.in.th/titles/130


ตอน 187 : http://www.comico.in.th/titles/130/chapters/195

ตอน 177 : ใช้ RC อ่านได้ : http://www.comico.in.th/titles/130/chapters/185


...

ขอบคุณผู้อ่าน แฟนเพจที่ติดตาม สนับสนุน ให้กำลังใจนักเขียนมาตลอด

ขอบคุณเพื่อน พี่ ที่แสดงความคิดเห็นให้ทางออก และที่ให้กำลังใจเงียบๆ

พวกคุณเป็นบุคคลสำคัญที่ฉันเห็นคุณค่าของพวกคุณเสมอ


ขอบคุณเพื่อนร่วมอาชีพที่มาส่องเพจนี้อย่างสม่ำเสมอจนสามารถนำ

โพสส่วนตัวตอนฉันอ่อนแอไปแชร์ต่อและวิจารณ์ตำหนิให้ฉันเสียหายได้

แต่โพสที่มีเนื้อหาสาระให้ประโยชน์กับสังคมฉันกลับไม่เคยเห็นคุณแชร์ออกไปสักครั้ง


นั้นย้ำเตือนให้ฉันตระหนักถึงเพื่อนร่วมวงการที่ฉันเคยแสดงความคิดเห็นออกไปแล้ว

คุณไม่เคยมาโพสพูดคุยกับฉันโดยตรงเลยสักครั้งเดียวไม่ว่าจะที่เฟซฯ หรือที่ไหนๆ

คุณไม่เคยติดต่อฉันเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่เคยรู้ว่าฉันเคยไปทำอะไรมาบ้าง

แต่สามารถสบประมาท ดูถูก ให้ร้าย ฉันได้ราวกับคุณรู้จักฉันเป็นอย่างดี


ฉันให้อภัยความหยาบช้าและความคิดชั้นต่ำของคุณที่แสดงออกมา

ขอให้พระเมตตาคุณ

วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2563

ปกตอน 186

 

#delvento : http://www.comico.in.th/titles/130

ตอน 186 : http://www.comico.in.th/titles/130/chapters/194
ตอน 176 : ใช้ RC อ่านได้ : http://www.comico.in.th/titles/130/chapters/184

...

ตอนนี้นักเขียนไม่มีบก.ที่จะสะดวกอัพงานวันเสาร์อาทิตย์ให้แล้ว ซึ่งถ้าอาทิตย์ไหนงานไม่อัพคือสัปดาห์นั้นไม่สามารถติดต่อหาทีมงานที่มีสิทธิ์อัพงานให้ได้จริงๆ 

วิธีแก้ปัญหานี้คือต้องร่นเวลาส่งงานขึ้นมาให้ทันวันศุกร์ + + ไม่อยากบ่นแต่ทุกวันนี้ทำงาน 7 วันต่อสัปดาห์ ถ้าต้องเปลี่ยนวันส่งงานคือต้องหยุดอย่างน้อย 3 สัปดาห์สำรองต้นฉบับ กับอีกทางคือต้องลดจำนวนช่องลงเพื่อให้ทำงานส่งได้ทันแต่นั้นก็จะทำให้ผู้อ่านมีเนื้อหาอ่านได้น้อยลงและเนื้อเรื่องจะขยับช้ากว่าเดิมซึ่งนักเขียนไม่ต้องการวิธีไหนเลย

ว่าแล้วเครียดๆ เป็น live online LP ฟังดีกว่า ชอบจัง ยิ่งฟังยิ่งหลงเสียง แอดมินฟังวนเพลงเก่าๆ ของเธอมาหลายเดือนแล้วก็ยังไม่เบื่อ

How to be the one that you love
Try to be the fire for you, try to be the sun
Try to be your home and the place that you come to
I took the whole world and put it in your hands
I'm really trying hard but I don't understand

รูปควีนในตอน แอบเสียดายรูปใหญ่ต้องเจอตัดออก

วันเสาร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2563

ปกตอน 185

 

#delvento : http://www.comico.in.th/titles/130

ตอน 185 : http://www.comico.in.th/titles/130/chapters/193
ตอน 175 : ใช้ RC อ่านได้ : http://www.comico.in.th/titles/130/chapters/183

...

ช่วงนี้แอดมินอาจจะโผล่มาแชร์อะไรน้อยนะคะ หัวข้อที่ติดตามเนื้อข่าวค่อนข้างจะซ้ำเดิมเยอะ แอดมินเลยไม่อยากแชร์หัวข้อที่เคยนำเสนอไปแล้ว เข้าใจว่าคนอ่านก็เบื่อแอดมินยังเบื่อเลย

เบื่อแต่ไม่หมดหวังนะคะ

เราต้องคิดบวก หวังในสิ่งที่ดี และส่งความคิดดีๆ พลังบวกๆ กำลังใจให้กันและกันเยอะๆ

:)

วันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2563

ปกตอน 184


#delvento : http://www.comico.in.th/titles/130

ตอน 184 : http://www.comico.in.th/titles/130/chapters/192
ตอน 174 : ใช้ RC อ่านได้ : http://www.comico.in.th/titles/130/chapters/182

...

โพสล่วงหน้าค่ะ รองานตอน 4 ทุ่มนะคะ

วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2563

ปกตอน 183

 

#delvento : http://www.comico.in.th/titles/130

ตอน 183 : http://www.comico.in.th/titles/130/chapters/191
ตอน 173 : ใช้ RC อ่านได้ : http://www.comico.in.th/titles/130/chapters/181

...

ถึงว่าอาทิตย์นี้แอดมินลืมออะไร ลืมอัพแจ้งข่าวนี่เอง

สะกดจิตๆ ใครอ่านโพสนี้ 
กดอ่าน Del Vento
กดอ่าน Del Vento
กดอ่าน Del Vento
กดอ่าน Del Vento
กดอ่าน Del Vento
กดอ่าน Del Vento

วันเสาร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2563

ปกตอน 182


 

#delvento : http://www.comico.in.th/titles/130

ตอน 182 : http://www.comico.in.th/titles/130/chapters/190
ตอน 172 : ใช้ RC อ่านได้ : http://www.comico.in.th/titles/130/chapters/180

...

นี่เป็นการอัพแจ้งล่วงหน้าค่ะ การ์ตูนอัพตอน 4 ทุ่มวันเสาร์นะคะ ถ้าไม่อัพ แอดมินไม่ยู้....... ระบบรวนมาก

วันนี้ 9.19 เลขสวย

โดยรวมสัปดาห์นี้แอดมินไม่รู้จะโม้อะไร งั้น... ระวังพายุฝน น้ำท่วม โรคระบาด ป้องกันตัวเองด้วยนะ

วันเสาร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2563

ปกตอน 181



#delvento : http://www.comico.in.th/titles/130

ตอน 181 : http://www.comico.in.th/titles/130/chapters/189
ตอน 171 : ใช้ RC อ่านได้ : http://www.comico.in.th/titles/130/chapters/179

...

ย้ำอีกรอบใครที่ซื้อตอน 700 coins ไปทำเรื่องที่เพจโคมิโค่ขอส่วนต่างคืนนะคะ

ขอบคุณที่ติดตามมายาวนานค่ะ