วันพุธที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

อนาถ... แพ้อะไรไม่แพ้ดันแพ้ “ลิปมัน”


จะว่าเรื่องน่าโมโหก็น่าโมโห จะน่าอนาถก็น่าอนาถเพราะปกติฉันเป็นโรคภูมิแพ้เหงื่อตัวเองทำให้จะใช้อะไรก็ต้องกลัวแพ้ไปหมด เครื่องสำอางก็ต้องเป็นแบบไม่ผสมน้ำหอม

แต่วันหนึ่งแมวน้ำเกิดรู้สึกว่าริมฝีปากแห้งเลยแวะร้านขายยาซื้อลิปมันยี่ห้อหนึ่งเป็นยี่ห้อคุ้น ๆ ก็ไม่คิดว่าจะแพ้ หลังจากนั้น 2 วัน แมวน้ำก็มาบอกว่า “แพ้ลิปมันล่ะ ปากเจ่อเหมือนโจลี่เลย” ฉันเห็นก็ขำ ๆ คิดว่าแมวน้ำคิดไปเองแต่วันรุ่งขึ้นปากแมวน้ำทั้งบวมทั้งแดงคราวนี้เลยเชื่อแล้ว แพ้จริง ๆ ด้วย

แมวน้ำเลยบอกให้ “ทิ้งลิปมันไปเหอะ” แต่ตอนนั้นฉันนึกยังไงก็ไม่รู้สงสัยจะเสียดายของงกไม่เข้าท่ากลับบอกว่า “จะใช้เอง” แล้วก็เอามาใช้ต่อ แมวน้ำก็เลยบอก “ตามใจ เดี๋ยวปากเป็นโจลี่แล้วจะรู้สึก”






แล้วก็สมพรปากแมวน้ำ... ปากฉันกลายเป็นโจลี่เหมือนแมวน้ำเด๊ะ เข้าใจคำว่า “Full Lips” อย่างถ่องแท้ก็งวดนี้ ฮา...

ปากบวมตึงไปหมดเรียกว่า “ชา ๆ ” เลยดีกว่า แถมหลังจากนั้นบริเวณที่ทาลิปไปเกิดอาการไหม้! อ่านไม่ผิดไหม้จริง ๆ มันเหมือนหนังปากลอกออกไปหมดไม่มีอะไรคลุมโดนลมโดนน้ำลายก็เจ็บ ยิ่งถ้าแห้งจะแสบแรงขึ้น 3 เท่า = =” เลยต้องใช้วาสลีนทาเคลือบไว้ตลอด ครั้นจะไปหาหมอก็รู้สึกว่ามันจิ๊บ ๆ เกินไปหาก็เลยต้องปล่อยให้หายเอง หลังจากนั้นตรงที่แสบแดงก็เป็นแผลแบบแผลร้อนในเป็นหย่อมเล็ก ๆ ทั่วริมฝีปาก ก่อนนอนเลยต้องทายาแก้แผลร้อนในแทนซึ่งมันก็ได้ผลเหมือนกัน

กว่าจะหายเจ็บและแผลเริ่มดีขึ้นใช้เวลาเกือบอาทิตย์ เป็นช่วงที่กินอะไรไม่อร่อยเลยแต่แปลกที่ช่วงนี้ดันอยากกินแต่ของเผ็ดแซ่บสงสัยจะมาโซ - -“

เอามาอัพทั้งที่เป็นเรื่องน่าอายโคตร ๆ เพื่อให้คนอื่นรู้ว่า “ลิปมันที่เป็นของพื้น ๆ” มันสามารถเกิด damage กับริมฝีปากได้มากขนาดนี้ (พูดถึงแพ้ลิปฉันนึกถึงแต่ลิปสติกมากกว่าลิปมันนะ)

ตอนนี้แมวน้ำเมล์ไปที่บริษัทผู้ผลิตแล้ว เขาขอให้ส่งไปตรวจสอบแล้วจะแจ้งผล ถ้ามีอะไรคืบหน้าจะมาเล่าให้ฟัง

ผลคือทางบริษัทบอกเป็นที่เราทำให้ผลิตภัณฑ์ติดเชื้อและส่งของมาปิดปาก - -" ยี่ห้ออื่นใช้ไม่แพ้ เหอะๆ