“สตอร์มี่ เดอลาร์เวอรี” (Stormé DeLarverie) บุชเลสเบี้ยนผู้มีบทบาทสำคัญในการเริ่มต้นเหตุการณ์จลาจลสโตนวอลล์ (Stonewall riots)
เช้าวันที่ 28 มิถุนายน ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512) ย่านเกรนิชวิลเลจ แมนฮัตตัน นครนิวยอร์ก ในยุคที่คนรักเพศเดียวกันยังถูกต่อต้านและมองว่าเป็นโรคจิต
ตำรวจเข้าตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายในบาร์เกย์
“สโตนวอลล์อินน์” (Stonewall Inn) และจับกุมลูกค้าที่เป็นเกย์และเลสเบี้ยนบางส่วนเพื่อนำขึ้นรถตำรวจ
“สตอร์มี่ เดอลาร์เวอรี” (Stormé DeLarverie) ซึ่งเป็นบุชเลสเบี้ยนหนึ่งในผู้ที่ถูกจับกุม
ได้โวยวายว่ากุญแจมือคับเกินไป
เธอจึงต่อสู้ขัดขืนเจ้าหน้าที่จนถูกกระบองตีเข้าที่ศีรษะ ขณะที่ทุกคนกำลังสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เดอลาร์เวอรีได้ตะโกนขึ้นว่า “ทำไมพวกนายถึงไม่ทำอะไรสักอย่าง?”
("Why don't you guys do something?") ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะโยนเธอเข้าไปในรถ
ทันใดนั้น ฝูงชนที่อยู่โดยรอบ ซึ่งมีทั้งเลสเบี้ยนและเกย์
ต่างก็ลุกฮือขึ้นต่อสู้กับตำรวจ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของขบวนการเรียกร้องสิทธิให้กับคนรักเพศเดียวกันหรือชาว LGBT ในอเมริกาและทั่วโลก
“ไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นคนออกหมัดคนแรก
แต่เขาลือกันว่าเป็นเธอ และเธอนั่นแหละที่บอกว่าตัวเองเป็นคนทำ”
ลิซ่า แคนนิสเทรซี (Lisa Cannistraci) เพื่อนของเดอลาร์เวอรี เจ้าของบาร์เลสฯ (Henrietta Hudson)
กล่าว แม้จะไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าเดอลาร์เวอรีคือผู้หญิงคนที่ต่อสู้จนหลบหนีออกจากรถตำรวจได้สำเร็จหรือไม่
แต่พยานทุกคนต่างยืนยันว่าเธอคือหนึ่งในบุชเลสเบี้ยนกลุ่มที่เข้าร่วมต่อสู้กับตำรวจในเหตุการณ์คืนนั้นอย่างแน่นอน
แม้เหตุการณ์วันที่
28 มิถุนายน ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512)
ในภายหลังจะถูกเรียกว่า “เหตุจลาจลสโตนวอลล์” (Stonewall riots) แต่ สตอร์มี่ เดอลาร์เวอรี กลับมองเหตุการณ์นั้นว่าเป็นการลุกฮือ (uprising)
“มันคือการปฏิวัติ
มันคือการลุกฮือ มันคืออารยขัดขืน มันไม่ใช่การจลาจล” – สตอร์มี่ เดอลาร์เวอรี
สตอร์มี่ เดอลาร์เวอรี เกิดประมาณวันที่ 24
ธันวาคม ค.ศ. 1920 (พ.ศ. 2463) ที่เมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐหลุยเซียนา สหรัฐอเมริกา
เธอมีแม่เป็นคนผิวดำ และพ่อซึ่งเป็นนายจ้างของแม่เป็นคนผิวขาว
การที่เธอต้องเติบโตในฐานะลูกครึ่งเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกันและคอเคเซียน
ทำให้เธอต้องเผชิญกับการกลั่นแกล้งและการเลือกปฏิบัติมาตั้งแต่เด็ก
ในช่วงปี 1955 ถึง 1969 เธอเป็นทั้งพิธีกรและ
"แดร็กคิงก์"
(Drag King – หญิงที่แต่งตัวข้ามเพศ) เพียงคนเดียวในคณะแสดง
"จูเวิลบ็อกซ์รีวิว" (Jewel Box Revue) ซึ่งเป็นคณะแสดงแดร็กคณะแรกในอเมริกาเหนือที่มีนักแสดงทั้งผิวดำและผิวขาวรวมอยู่ในคณะเดียวกัน
เธอเป็นศิลปินที่มีพรสวรรค์ การแสดงของเธอได้รับความนิยมและเธอเองก็เคยเดินสายเปิดการแสดงมาแล้วทั่วประเทศ
หลังเหตุการณ์ Stonewall เธออุทิศชีวิตให้กับการปกป้องและดูแลชุมชน
LGBT เธอมักจะเดินลาดตระเวนตามท้องถนนในย่านเกย์
(Gay Street) โดยเฉพาะบริเวณบาร์เลสเบี้ยน เพื่อปกป้องคนหนุ่มสาว เธอมีใบอนุญาตพกปืนและไม่ลังเลที่จะใช้มันเพื่อปกป้อง
"ลูก ๆ" ของเธอ (เดอลาร์เวอรีมองเยาวชน LGBT เป็นเหมือนลูกหลานที่ต้องปกป้อง
โดยเฉพาะในยุคที่ชาว LGBT ยังตกเป็นเป้าของการกลั่นแกล้งรังแกจากเจ้าหน้าที่รัฐ)
เธอยังเป็นบาวเซอร์ (bouncer – ผู้ดูแลร้าน)
ให้กับบาร์เลสเบี้ยนหลายแห่งในนิวยอร์กซิตี้และยังเป็นสมาชิกของสมาคมทหารผ่านศึกสโตนวอลล์
(Stonewall
Veterans' Association – สมาคมของผู้ที่เคยมีส่วนร่วมในเหตุการณ์จลาจลสโตนวอลล์)
The New York Times เคยกล่าวถึงเธอว่าเป็นเหมือน “ผู้พิทักษ์ของเลสเบี้ยนในชุมชนหมู่บ้าน” (guardian of lesbians in the Village)
สตอร์มี่ เดอลาร์เวอรี เสียชีวิตเมื่อวันที่
24 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) ด้วยวัย 93 ปี เธอได้รับการยกย่องให้เป็น
"วีรสตรีแห่งสิทธิพลเมืองเกย์" และเป็นแรงบันดาลใจให้กับขบวนการ LGBT
มาจนถึงทุกวันนี้
ชีวิตและการต่อสู้ของเธอเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ Pride Month มีความหมายอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) Brooklyn
Pride, Inc. ได้เชิดชูเกียรติของ
สตอร์มี่ เดอลาร์เวอรี โดยการฉายภาพยนตร์เรื่อง
Stormé: The Lady of the Jewel Box ของ Michelle Parkerson
ที่ Brooklyn
Society for Ethical Culture
เมื่อวันที่ 24 เมษายน ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557)
ทาง Brooklyn Community Pride Center ได้ยกย่องเดอลาร์เวอรีเทียบเคียงกับเอดิธ
วินด์เซอร์ (Edith Windsor – นักเคลื่อนไหวสิทธิ LGBT ผู้ผลักดันสมรสเท่าเทียมในอเมริกาจนสำเร็จ) สำหรับ "ความกล้าหาญและความเด็ดเดี่ยวของเธอ"
และเธอก็ยังได้รับการประกาศเกียรติคุณจาก Letitia James นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิประชาชนแห่งนิวยอร์กซิตี้
ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562)
เดอลาร์เวอรีเป็นหนึ่งใน "ผู้บุกเบิก ผู้บุกเบิกทาง และวีรบุรุษ"
ชาวอเมริกันจำนวน 50 คน ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าสู่ National
LGBTQ Wall of Honor ภายใน Stonewall National Monument (SNM) ในสโตนวอลล์อินน์ของนิวยอร์ก SNM ถือเป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติแห่งแรกของสหรัฐฯ
ที่อุทิศให้กับสิทธิและประวัติศาสตร์ของกลุ่ม LGBTQ
และการเปิดตัวกำแพงดังกล่าวมีกำหนดจัดขึ้นในช่วงครบรอบ 50 ปีของเหตุจลาจลสโตนวอลล์
หมายเหตุ:
มีหลายคนเข้าใจว่าเกย์แดร็กควีน
(Drag Queen – ชายที่แต่งตัวข้ามเพศ) 2 คน คือ “มาช่า
พี.จอห์นสัน” (Marsha P. Johnson) และ “ซิลเวีย
ริเวร่า” (Sylvia Rivera) คือผู้เริ่มเหตุจลาจลสโตนวอลล์และเลือกที่จะไม่กล่าวถึงเดอลาร์เวอรี แต่ข้อเท็จจริงคือ จอห์นสันเองเคยยืนยันว่าตนไม่ได้อยู่ตรงจุดที่การปะทะเริ่มต้นขึ้นแต่ได้ยินข่าวเลยนำไปบอกริเวร่าที่กำลังหลับอยู่บนม้านั่งในสวนสาธารณะใกล้ๆ
ทำให้ทั้งคู่ได้มาร่วมในเหตุการณ์หลังจากที่การจลาจลเริ่มขึ้นไปแล้ว (ในช่วงบั้นปลายของชีวิต
ริเวร่าได้ระบุอัตลักษณ์ของตนว่าเป็นหญิงข้ามเพศ (Transgender) ในขณะที่จอห์นสันเคยให้สัมภาษณ์ระบุว่าตนคือผู้ชายแต่งหญิงที่เป็นเกย์
(transvestite) ซึ่งแตกต่างจากการเป็นหญิงข้ามเพศ)
แต่แม้ทั้งคู่จะไม่ใช่ผู้ริเริ่มเหตุจลาจลสโตนวอลล์แต่ทั้งคู่ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่เข้าร่วมการประท้วงการใช้ความรุนแรงของตำรวจอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวันที่หน้าสโตนวอลล์อินน์ และทั้งคู่ยังมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนขบวนการสิทธิ LGBT
หลังจากนั้นซึ่งเป็นการสานต่อและขยายผลให้ขบวนการนี้มีความแข็งแกร่งและครอบคลุมยิ่งขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น