โสเภณีถูกกฎหมาย (7) : การดูแลจากหน่วยงานรัฐ
ขายตัวถูกกฎหมายใครๆ ก็เป็นโสเภณีได้ง่ายจัง (7)
ข้อโต้แย้งประเด็น “เมื่อถูกกฎหมายหน่วยงานรัฐจะเข้ามาช่วยยกระดับมาตรฐานการโสเภณีกับวงการค้ากาม”
เหตุผลของผู้สนับสนุน - เมื่อการขายบริการทางเพศถูกกฎหมายก็จะมีหน่วยงานรัฐเข้ามาช่วยคุ้มครองผู้บริโภคเหมือนการซื้อสินค้าและบริการประเภทอื่นที่เมื่อลูกค้าไม่ได้รับความพึงพอใจก็มีช่องทางให้ร้องเรียนและเรียกเงินค่าบริการคืนได้ มีหน่วยงานรัฐเข้ามาควบคุมคุณภาพโสเภณี จัดให้มีการตรวจโรคอย่างสม่ำเสมอช่วยให้ผู้ซื้อมั่นใจได้ว่าสินค้าสะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน
เป็นเหตุผลที่ทำให้ผู้เขียนรู้สึกขำเพราะมันเป็นความคิดเห็นที่แสดงทัศนคติออกมาอย่างชัดเจนว่าผู้ที่สนับสนุนให้การค้ากามถูกกฎหมายมองผู้หญิงเป็นแค่วัตถุทางเพศ เป็นสินค้าที่ต้องมีมาตรฐานรับรองไม่ได้มีคุณค่าหรือศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เหลืออยู่เลย ขัดแย้งกับความคิดเห็นก่อนหน้าที่พยายามบอกว่า “ถ้าโสเภณีเป็นอาชีพถูกกฎหมายผู้ขายบริการทางเพศจะมีเกียรติมีศักดิ์ศรีในสังคม”
ผู้หญิงหลากหลายแบบที่มานั่งรอ "ขายบริการทางเพศ" ไม่ต่างจากสินค้าบนชั้นให้ลูกค้าเลือกหยิบซื้อกลับ
ก่อนอื่นผู้เขียนต้องขอนิยามคำว่า “อาชีพ” ก่อน
คำว่า “อาชีพ” มีความหมายตามพจนานุกรมราชบัณฑิตฯ ว่า “งานที่ทำเป็นประจำเพื่อเลี้ยงชีพ” และคำว่างานนั้นหมายถึง “กิจการที่ใช้ฝีมือ, แรงงาน, ทักษะ, ความสามารถเฉพาะบุคคล เช่น พ่อครัว, หมอ, แม่บ้าน, ทนาย, นักข่าว, นักเขียน ฯลฯ”
แต่ก็มีงานบางประเภทที่ต้องใช้รูปร่างหน้าตาที่ดีเป็นส่วนประกอบสำคัญในการทำงาน เช่น ดารา, นักร้อง, นักแสดง, นางแบบ, พิธีกร, พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน, ประชาสัมพันธ์ ฯลฯ แม้คนทั่วไปจะมองว่า “รูปร่าง, หน้าตา, ร่างกายของคนกลุ่มอาชีพนี้ก็เป็น “สินค้า” เหมือนกัน แต่สิ่งที่ต่างกันคือคนกลุ่มอาชีพนี้ต้องมีทักษะด้วยจึงจะสามารถประกอบอาชีพในสายงานเหล่านี้ได้
นี่คือเด็กผู้หญิงที่เต็มใจและชื่นชอบการประกอบอาชีพโสเภณีและผู้ที่สนับสนุนการค้ากามถูกกฎหมายมักยกมาเป็นตัวอย่างเพื่อหลอกเด็กสาวรุ่นใหม่ให้เข้ามาสู่วงจรค้ากาม ผู้เขียนไม่ขอระบุชื่อเพราะไม่อยากส่งเสริม แต่ที่นำมาให้ดูก็เพื่อให้รู้ว่ายังมีผู้หญิงรักสบายจำนวนไม่น้อยที่ยินดีขายเครื่องเพศของตนเองแลกกับเงินระยะสั้นมากกว่าการทำงานปกติที่ใช้ความรู้, ทักษะ, ความสามารถอื่นๆ ที่ยั่งยืนกว่าการให้เช่าร่างกายกับความสวยที่นับวันจะเสื่อมโทรมลงตามอายุ
ผู้ที่สนับสนุนการค้ากามถูกกฎหมายมักอ้างว่า “โสเภณีอยู่ในกลุ่มอาชีพที่ใช้รูปร่างหน้าตาควบคู่กับทักษะทางเพศเหมือนดารา, นักร้อง” ซึ่งเป็นความเท็จ เพราะดารา, นักร้อง, นางแบบที่เพิ่งเข้าวงการแม้จะหน้าตารูปร่างดีแค่ไหนก็จะได้ค่าแรงตอบแทนเพียงน้อยนิดเมื่อเทียบกับรุ่นพี่ที่อยู่ในวงการมานานและมีประสบการณ์การทำงานอย่างช่ำชอง ตรงกันข้ามกับการเป็นโสเภณีที่เด็กสาวบริสุทธิ์ไม่เคยมีประสบการณ์ทางเพศเลยกลับมีราคาค่าเปิดบริสุทธิ์สูงลิ่วกว่าค่าบริการของกะหรี่เจนสังเวียนลีลาดีหลายสิบหลายร้อยเท่า
นั่นเพราะ ผู้ซื้อ, ลูกค้า หรือผู้รับบริการ ไม่ได้มองคุณค่าของโสเภณีที่ทักษะทางเพศหรือคุณค่าความเป็นมนุษย์ แต่มองเป็นแค่ “สินค้า” หรือ “ของใช้” ที่ยิ่งสดยิ่งดียิ่งไม่เคยผ่านอวัยวะเพศชายของใครมาก่อนก็ยิ่งนับเป็น “ของมือหนึ่ง” ที่เป็นสุดยอดปรารถนาและสูงค่ากว่า “ของใช้แล้ว” ที่ผ่านอวัยวะเพศชายมานับไม่ถ้วนจนยับเยิน
มีผู้หญิงสาวจำนวนไม่น้อยที่นำความซิงของตนมาเปิดประมูลในราคาหลักล้าน ยิ่งชาติตระกูลดีประวัติดีมีความสดใหม่มากเท่าไรราคา "ค่าเปิดซิง" ก็จะแพงมากขึ้นเท่านั้น ชายผู้ร่ำรวยต่างยินดีจ่ายเพื่อซื้อ “ความซิง” ของหญิงเหล่านี้เพื่อที่ตนจะได้ชื่อว่าเป็น “ผู้เปิดซิง” แล้วนับมันเป็นความภาคภูมิใจเพื่อสนองอีโก้ความเป็นชายของตน
ดังนั้นหากในอนาคตการค้ากามถูกกฎหมายขึ้นมาจริงและมีหน่วยงานรัฐเข้ามาควบคุมดูแลกิจการค้ากาม ผู้ที่อยากขายตัวก็ควรมองในมุมกลับด้วยว่า โสเภณีจะเจออะไรบ้างจากการที่มีหน่วยงานรัฐเข้ามาควบคุม
1. เมื่อใดที่คุณขายตัวเสร็จแล้วแต่ผู้ซื้อไม่ถูกใจการบริการของคุณและผู้ซื้อสามารถร้องเรียนขอเงินคืนได้เหมือนการซื้อสินค้าบริการทั่วไป คุณอาจโดนหักเงินหรือต้องคืนเงินทั้งหมดที่ได้จากการบริการครั้งนั้น หากคุณจะโต้แย้งและไม่ยินยอมคืนเงินลูกค้าคุณอาจต้องอัดคลิปเป็นหลักฐานทุกครั้งเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบการให้บริการ
ซึ่งตรงนี้หลายคนอาจคิดว่า “ไม่เห็นเป็นไรเลย ไหนๆ ก็ต้องอัดคลิปแล้วเอาคลิปไปอัปโหลดขายสร้าง passive income อีกต่อก็ไม่เลว แถมถ้าสะสมคลิปไว้เยอะๆ จะเอาไปใช้เป็นโปรไฟล์การทำงานได้ด้วย”
ผู้เขียนขอเตือนว่า ยิ่งคุณมีคลิปเยอะเท่าไรค่าตัวคุณจะน้อยลงเรื่อยๆ ตามจำนวนคลิป (เว้นแต่คุณจะมั่นใจว่าคุณสามารถดันตัวเองให้ดังขนาดเป็น sex star จนไม่ต้องแคร์ใครหน้าไหนอีกแล้วแต่คนที่ทำสำเร็จมีจำนวนแค่ยอดภูเขาน้ำแข็ง) และอะไรที่อัพขึ้นไปบนอินเทอร์เน็ตแล้วคุณไม่มีทางตามลบออกได้หมด คุณจะมีหลักฐานการขายตัวของคุณตลอดไปแม้ว่าวันหนึ่งคุณอยากเปลี่ยนอาชีพเลิกขายตัว, เริ่มต้นชีวิตใหม่, อยากแต่งงาน, มีลูก คลิปที่คุณถ่ายจะตามหลอกหลอนคุณแม้ว่าคุณจะต้องการหรือไม่
นอกจากนี้ การอัพคลิปการทำงานของคุณอาจสุ่มเสี่ยงการไปละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของลูกค้า ถ้าคุณไม่เซนเซอร์หน้าของพวกเขาให้ดีระวังคุณอาจโดนลูกค้าเหล่านั้นฟ้องร้อง
โสเภณีอาวุโสที่ทำงานมานานส่วนใหญ่ยังยากจนและไม่มีเงินเก็บ ต่อให้มีทักษะทางเพศช่ำชองมากแค่ไหนก็ไม่มีทางเรียกค่าตัวเป็นหลักล้านได้แบบเด็กสาวประวัติดีที่ประกาศขายพรหมจรรย์
2. เมื่อใดที่คุณไม่ดูแลรูปร่างหน้าตาให้ดีพอ ปล่อยให้เครื่องเคราไม่ฟิต คุณอาจโดนเขี่ยเป็นสินค้าเกรดรองหรือตกรุ่น หรืออาจถูกหน่วยงานรัฐบังคับไปทำร่างกายให้มีคุณภาพพอจะขายบริการต่อ เช่นบังคับให้ศัลยกรรม บังคับให้ลดน้ำหนัก บังคับให้ผ่าตัดกระชับช่องคลอด ซึ่งการซ่อมแซมร่างกายส่วนต่างๆ เหล่านี้คุณต้องออกค่าใช้จ่ายเองเหมือนแท็กซี่ที่ต้องออกค่าซ่อมบำรุงรถให้ตรงตามมาตรฐานของกรมการขนส่งเองโดยที่กรมการขนส่งไม่เคยช่วยออกค่าใช้จ่ายเหล่านี้ให้
3. เมื่อใดที่คุณชราภาพหรือร่างกายทรุดโทรมลงจากขายตัวมานาน คุณอาจถูกลูกค้าและหน่วยงานรัฐประเมินว่าเป็น” สินค้าเสื่อมสภาพที่ไม่ได้มาตรฐานของการบริการ” เหมือนแท็กซี่ที่ต้องเปลี่ยนรถทุก 12 ปี (ประกาศเมื่อ 29 มีนาคม 2564 โดยให้ใช้บังคับย้อนหลังตั้งแต่ 21 มกราคม 2564 เป็นต้นไป)
หากทางการไม่ต่อใบอนุญาตให้คุณขายตัวอย่างถูกกฎหมายอีกเพราะร่างกายคุณทรุดโทรมลงจนไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานแถมคุณก็ไม่มีทักษะอื่นนอกจากเรื่องเซ็กซ์ คุณคิดไว้หรือยังว่าจะเลี้ยงชีพจากอะไร? หากคุณไม่ผันตัวไปทำอาชีพอื่นคุณก็คงต้องลดเกรดตัวเองไปเป็นกะหรี่นอกกฎหมาย ไปยืนตามต้นขนุนจนสุดท้ายอาจได้ค่าตัวเป็นแค่บุหรี่ไม่กี่มวน
4. เมื่อใดที่คุณต้องรับแขกตามระบบและต้องทำประตูให้ได้ตามเป้าคุณทำใจไว้เลยว่าเปอร์เซ็นต์ที่คุณจะเจอต้องลูกค้าที่ไม่ป้องกันก็จะเพิ่มขึ้นด้วย คุณต้องสะอาดสำหรับผู้ซื้อแต่ผู้ซื้อมักไม่คิดว่าเขาต้องสะอาดตอนมาซื้อคุณ หรือพูดง่ายๆ คือ ในขณะที่ผู้ขายบริการทางเพศอย่างคุณต้องมีใบตรวจโรคแสดงแต่คนที่มาซื้อคุณไม่จำเป็นต้องเอาใบตรวจโรคมาแสดงก่อนซื้อคุณ
เมื่อรัฐเข้ามาควบคุมระบบการตรวจโรคนั่นหมายถึงคุณอาจต้องเสียเงินตรวจโรค, เจาะเลือดอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยก็เดือนละครั้งเพื่อรับรองว่าตัวคุณสะอาดมีคุณภาพพร้อมขาย แต่หากคุณโชคดีได้ “ของแถม” จากลูกค้าเมื่อไร คุณมีสิทธิ์โดนสั่งระงับการขายตัวจนกว่าจะรักษาโรคจนหายหรืออาจถูกห้ามขายตัวตลอดชีวิตหากติดโรคที่รักษาไม่หาย ถึงตอนนั้นคุณคิดหาอาชีพสำรองไว้รึยัง?
ตัวอย่างบัตรอนุญาตค้าประเวณี คุณคิดว่าบัตรพลาสติกใบนี้สามารถปลอมแปลงได้หรือไม่? ขนาดบัตรประชาชนที่มีชิพมิจฉาชีพยังสามารถปลอมแปลงได้ฉะนั้นผู้ซื้อไม่มีทางรู้ได้เลยว่าโสเภณีที่ตนจ่ายเงินซื้อมีใบอนุญาตที่เป็นของจริงและสามารถรับประกันความสะอาดได้จริง (ต้นฉบับภาพไม่อนุญาตให้เผยแพร่โดยทั่วไป ภาพนำมาจากการค้นหา google ลิขสิทธิ์เป็นของ shutterstock และเจ้าของภาพ)
5. เมื่อใดที่คุณต้องยุ่งเกี่ยวกับหน่วยงานของรัฐ (ของไทย) คุณจะเจอกระบวนการทำงานที่ล่าช้าและไม่พ้นเรื่องใต้โต๊ะ ต่อให้การค้ากามถูกกฎหมายแล้วหรือต่อให้มีการขึ้นทะเบียนโสเภณีเป็นมรดกโลกก็ไม่สามารถทำให้ระบบรัฐ (โดยเฉพาะรัฐบาลไทย) ปราศจากการคอร์รัปชัน และในทางกลับกันคนไทยเองก็นิยม “จ่าย” เพื่ออำนวยความสะดวกให้ตัวเองเสียด้วย
หลายคนมองอย่างโลกสวยว่า “เมื่อการค้ากามถูกกฎหมายแล้วภาครัฐจะเข้ามาดูแลทำให้โสเภณีปลอดภัยมากขึ้น ลดการถูกรังแกจากเจ้าหน้าที่รัฐและไม่ต้องจ่ายส่วยตอนทำงานอีกแล้ว”
ก็ขอบอกเลยว่าไม่มีทางและโลกสวยมาก
เรื่องง่ายๆ อย่างเช่นการบังคับให้ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ต้องใส่หมวกกันน็อกตามกฎหมายมีมานานเป็นสิบปีแล้วแต่ทุกวันนี้ก็ยังมีคนหลีกเลี่ยงไม่สวมหรือสวมแบบขอไปทีเป็นช่องทางให้เจ้าหน้าที่รีดไถผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์อยู่เลยและก็มีคนจำนวนไม่น้อยยอม “จ่าย” เพื่อจะได้ไม่โดนใบสั่งหรือไม่ต้องเสียเวลาไปจ่ายค่าปรับที่โรงพัก
การดักจับผู้ไม่สวมหมวกกันน็อก
นี่ยังไม่รวมถึงกรณีที่ผู้ใช้รถหลายๆ คนน่าจะเคยมีประสบการณ์ร่วม อย่างการขับรถอยู่ดีๆ ก็ถูกเจ้าหน้าที่ที่ฉ้อฉลเรียกให้จอดริมถนนเพื่อเสียค่าปรับทั้งที่เราไม่ได้ทำอะไรผิดแต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ก็ไล่ทีละข้อหาเอาเราผิดจนได้ หรือถ้าหาข้อหายัดไม่ได้จริงๆ เจ้าหน้าที่ก็ “ขอ” กับผู้ใช้รถเอาดื้อๆ โดยอ้างว่าเป็นค่าอำนวยความสะดวก
หากอิงจากวัฒนธรรมแบบไทยๆ ข้างต้นแล้วอนุมานได้ว่าการทำให้ค้ากามถูกกฎหมายไม่ช่วยให้โสเภณีไม่ต้องส่งส่วย
หากการค้ากามถูกกฎหมายแล้วมีการออกระเบียบให้ผู้ซื้อบริการต้องสวมถุงยางทุกครั้งที่ใช้บริการหากไม่สวมถูกปรับคุณคิดว่าในทางปฏิบัติรัฐจะสามารถบังคับใช้จริงได้กี่เปอร์เซ็นต์?
ขนาดแค่บังคับให้สวมหมวกกันน็อกเพื่อความปลอดภัยของตัวผู้ขับขี่เองคนยังเลี่ยงไม่อยากใส่แล้วนับประสาอะไรกับถุงยางอนามัยที่ผู้ชายหลายคนมองว่าเป็นตัวขัดความสุขด้วยซ้ำ คิดหรือว่าตอนซื้อบริการจริงจะไม่มีคนมักง่ายเอาถุงอะไรก็ได้สวม, อยากสดเลยแอบถอดถุงยางออกระหว่างใช้บริการ, หรือกระทั่งใช้กำลังบังคับขู่เข็ญผู้ขายตัวให้ยอมร่วมเพศทั้งที่ไม่ได้สวมถุงยาง สุดท้ายตัวผู้ขายตัวก็ยังต้องเสี่ยงกับการตั้งครรภ์หรือติดโรคไม่ต่างจากเดิมโดยที่กฎหมายช่วยอะไรไม่ได้เลย
และเมื่อใดที่คุณลดคุณค่าตัวเองให้เป็นแค่ "สินค้า" คุณก็อย่าหวังความเห็นใจจากผู้อื่นหรือหวังว่าผู้ซื้อจะเห็นคุณเป็น “มนุษย์”
เคยมีรายการในไทยสัมภาษณ์อดีตโสเภณีที่ออกมาให้ความรู้และข้อเท็จจริงของอาชีพโสเภณีว่าไม่ได้สวยหรูสะดวกสบายอย่างที่หลายคนวาดฝันไว้ ผู้ส่งเสริมการขายตัวถูกกฎหมายหลายคนออกมาโจมตีเธอทั้งยังปฏิเสธประสบการณ์ของเธอว่าไม่เป็นความจริง
หากเป็นโสเภณีสังกัดซ่องเมื่อพบลูกค้าที่มีปัญหาก็ยังพอวานให้แมงดาช่วยดูแลได้ แต่ถ้าคุณเป็นโสเภณีอิสระไม่มีแมงดาคุมเมื่อเกิดปัญหาจะมีแรงปกป้องตัวเองจากลูกค้ามั้ย?
ถ้าจะพูดอย่างโลกสวยว่า “ก็วานเจ้าหน้าที่รัฐไง”
นั่นหมายถึงคุณอาจต้องวานให้เจ้าหน้าที่มานั่งคุมตอนคุณรับแขกเพื่อไม่ให้แขกตุกติก แต่การวานเจ้าหน้าที่คุณอาจต้องจ่ายค่าดำเนินงานเพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะยอมทำงานเพื่อคุณฟรีๆ ไปๆ มาๆ ถึงจะเปลี่ยนรูปแบบให้ถูกกฎหมายขึ้นแต่คุณก็ไม่พ้นต้องกลับมาจ่ายส่วยให้เจ้าหน้าที่อยู่ดี
ฉะนั้นต่อให้การค้ากามถูกกฎหมาย ผู้ขายบริการทางเพศก็จะยังคงถูกเจ้าหน้าที่รัฐและลูกค้าหาช่องทางเอารัดเอาเปรียบได้เหมือนเดิมหรืออาจหนักหนากว่าเดิม
ที่มาของรูป
https://assets3.thrillist.com/v1/image/1695716/1584x1054/crop;jpeg_quality=60.jpg
https://www.dailyrecord.co.uk/news/scottish-news/glasgow-2014-could-lead-influx-2268811
https://dvpartner.ru/germany/prostitutes-moenchengladbach.php
http://timeline2018.blogspot.com/2018/01/blog-post_94.html
https://hilight.kapook.com/view/184421
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น